อุดรธานี ไฟไหม้บ้านหรู พบศพชายหนุ่มมีลวดผูกคอ คาดผูกคอแล้วเผาบ้านตามหลัง
1 min read
เมื่อเวลา 05.00 น วันที่ 1 มี.ค. 64 ร.ต.อ วิชิต ลาชัย ร้อยเวร สภ.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีเหตุเพลิงไหม้ บ้านหรู หลังใหญ่ อยู่ที่บ้านโนนบก หมู่ ที่ 14 ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก. สภ. น้ำโสม และ พ.ต.ท พรมมี โสระศีร รองผกก.สอบสวนทราบ และประสานรถดับเพลิง กู้ภัยทางหลวงน้ำโสม รุดไปที่เกิดเหตุดังกล่าว ไปช่วยเหลือดับเพลิง สกัดเพลิง ไม่ให้ลุกลามไปที่อื่น และบ้านใกล้เคียง ขณะที่เพลิงกำลังลุกใหม้อย่างหนักเนื่องจากเป็นบ้าน 2 ชั้นข้างบนเป็นไม้ ข้างล่างเป็นปูน เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่
เจ้าหน้าที่ ต้องประสานระดมรถดับเพลิงของเทศบาล และ อบต.จำนวน 9 แห่ง นับ 10 คัน ระดมฉีดน้ำ สกัดเพลิง ไม่ให้ลุกลาม สกัดเพลิงอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เพลิงสงบลงตัวบ้านเผาวอดเป็นเถ้าถ่าน และ ทาง พ.ต.อ. เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก. ได้ใช้เชือกล้อมบริเวณเกิดเหตุไว้เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปทำลายหลักฐาน และประสานไปยังแพทย์โรงพยาบาลน้ำโสม และประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี กองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจที่เกิดเหตุ และหลังไฟสงบพบศพ ชายนอนตายในกองเพลิงเป็นเถ้าถ่าน และให้แพทย์มาทำการชันสูตรพลิกศพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ ที่ใหม่เกรียม ดำเป็นตอตะโกอยู่ในเก้าถ่านหลังเพลิงสงบ
จากการชันสูตรพลิกศพ พบ ว่า ศพที่ไฟไหม้เป็นเพศชาย มีลวดมัดคออยู่ลิ้นจุกปากทะลักมาข้างนอก กระโหลกด้านหลังแตก ตายผิดธรรมชาติ การตายอาจจะไม่ใช่สาเหตุจากไฟใหม่ อาจจะตายก่อนไฟไหม้ สังเกตุจากลิ้นที่ทะลักออกมา และลำคอถูกลวดมัดอยู่ ทางเจ้าหน้าตำรวจจึงทำการสอบสวนพยานเบื้องต้นที่อยู่ในเหตุการณ์ นางทุม อายุ 83 ปีเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่าผู้ตาย คือ นายกิจจาอายุ 31 ปี เป็นหลานชาย เป็นลูกของลูกชายตน ซึ่ง ลูกชายตนผู้เป็นพ่อของ นายกิจจาฯได้เสียชีวิต กว่า10 ปีแล้ว นายกิจจาฯอยู่กับตน และ แม่คือลูกสะใภ้ ต่อมา ลูกสะใภ้ได้สามีใหม่ และไปทำงานที่ประเทศเกาหลี นายกิจจาฯซึ่งเป็นหลานได้อยู่กับตน 2 คน เพราะบ้านหลังนี้ พ่อของนายกิจจาฯเป็นผู้สร้าง ตอนไปทำงานอยู่ประเทศไต้หวัน สร้างหมดไปล้านกว่า ต่อมาลูกชายตนไหลตายที่ประเทศใต้หวัน ตนกับหลานเลยอยู่ด้วยกันมาตลอด
ต่อมาเมื่อปีที่ผ่านมา นายกิจจาฯผู้ตายในกองเพลิง ได้ประสบอุบัติเหตุรถชน ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ไปไหนลำบาก ตนจึงเลี้ยงดูมาตลอด อยู่ด้วยกัน
นางทุม เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อตอนประมาณ04.30 น. ตนตื่นนอนขึ้นมาเพื่อจะไปนึ่งข้าว นายกิจจาฯผู้ตายตื่นพร้อมกัน แล้วถามหาว่าจะกินข้าว ตนบอกว่าข้าวมี อยู่ในครัว ไปตักกินเอาเลย ต่อจากนั้น นางทุมฯ เล่าต่อว่าตนมานั่งเคี้ยวหมากอยู่ประมาณ 30 นาที นอกบ้าน เห็นเปลวเพลิง และควัน พุ่งออกมา ตนจึงร้องให้ชาวบ้านและญาติๆช่วย ชาวบ้านและญาติจึงออกมาจำนวนมากมาช่วยดับไฟ และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และรถดับเพลิงมาดับไฟ ตอนนั้นไม่มีใครเห็นนายกิจจาฯ พอเพลิงสงบพบศพ นายกิจจาฯไหม้ดำเป็นตอตะโกอยู่ในกองเถ้าถ่านสภาพลิ้นปลิ้นทะลักออกมาที่คอมีลวดมัดอยู่
นางทุม เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อตอนประมาณ04.30 น. ตนตื่นนอนขึ้นมาเพื่อจะไปนึ่งข้าว นายกิจจาฯผู้ตายตื่นพร้อมกัน แล้วถามหาว่าจะกินข้าว ตนบอกว่าข้าวมี อยู่ในครัว ไปตักกินเอาเลย ต่อจากนั้น นางทุมฯ เล่าต่อว่าตนมานั่งเคี้ยวหมากอยู่ประมาณ 30 นาที นอกบ้าน เห็นเปลวเพลิง และควัน พุ่งออกมา ตนจึงร้องให้ชาวบ้านและญาติๆช่วย ชาวบ้านและญาติจึงออกมาจำนวนมากมาช่วยดับไฟ และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และรถดับเพลิงมาดับไฟ ตอนนั้นไม่มีใครเห็นนายกิจจาฯ พอเพลิงสงบพบศพ นายกิจจาฯไหม้ดำเป็นตอตะโกอยู่ในกองเถ้าถ่านสภาพลิ้นปลิ้นทะลักออกมาที่คอมีลวดมัดอยู่
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และสัญนิษฐานว่า นายกิจจาฯ น่าจะผูกคอตายก่อนแล้วเพลิงใหม่บ้านตามหลัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนสาเหตุการตาย และเพลิงไหม้บ้านที่แท้จริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว นายวรเชษฐ์ ธรรมเขต ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี
Loading…