ผู้สมัครนายเล็กอุดรแจ้งความถูกใส่ร้ายในไลน์ มีคะแนนจัดตั้งหลักหมื่น

เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนจะมีการเลือกตั้งเทศบาล อดีตนายกนครอุดรธานี แจ้งจับ การเมืองน้ำเน่าให้ร้ายผ่าน “ไลน์” พบหลายฉบับเข้าข่ายดำเนินคดีหมด

วันที่ 3 มีนาคม 2564 เวลา 12.05 น. นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี อดีตนายกเทศมนตรีนครอุดร พร้อมทีมงาน เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ศักดา บุญก้อน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับคนที่ใส่ร้าย โดยเขียนข้อความลงไปในแอพพลิเคชั่นไลน์ กล่าวหาว่า ตนมีคะแนนจัดตั้ง โดยการโอนย้ายคนเข้ามาในทะเบียนเลือกตั้ง จำนวนกว่า 12,000 คน ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลที่อยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว เมื่อเห็นข้อความแล้ว อาจทำให้เข้าใจว่า นายอิทธิพนธ์ เป็นบุคคลที่ไม่ดี เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังแจ้งความเสร็จ นายอิทธิพนธ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้มาแจ้งความเรื่องที่ตนโดนใส่ร้าย ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ โดยความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ด้วยการโพสต์ข้อความส่งไปยังไลน์กลุ่มต่าง ๆ ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่ใช่ข้อความที่เป็นจริง จึงได้มาแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี และหลังจากนี้ตนจะไปแจ้งยัง กกต.อุดรธานี ด้วย ตนต้องได้รับความเสียหาย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับ พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น มีโทษสูง ผู้ที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามที่ทำแบบนี้ ตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ อยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชน ที่ได้รับข่าวหรือเห็นโพสต์ต่าง ๆ ที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง ต้องระมัดระวัง อย่างไปส่งต่อหรือแชร์ต่อ

“ส่วนตัวของผมนั้น การหาเสียงไม่ควรที่จะมีแบบนี้อีกแล้ว ในเรื่องการใส่ร้ายหรือให้ร้าย ควรที่จะหมดยุคไปแล้ว ลักษณะในการใส่ร้าย เป็นการเขียนขึ้นมาแล้วแชร์และโพสต์ต่อกันไป ซึ่งมีการแชร์ไปยังกลุ่มไลน์ต่าง ๆ ทั้งที่จริงแล้วตัวผมเองไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องต่าง ๆ ปัจจุบันการที่เราเห็นสื่อต่าง ๆ ที่ออกไปนั้น ตัวของเราเองควรใช้ วิจารณญาณของตนเอง ว่าข่าวต่าง ๆ นั้นเป็นอย่างไร ขอฝากไปถึงทุกท่าน หากมีข้อสงสัยเรื่องใดสามารถสอบถามที่เฟซบุ๊กของผมได้ พร้อมกับฝากไปถึงผู้ไม่หวังดีด้วย”

นายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ผู้ที่ตนแจ้งความดำเนินคดี ได้เขียนข้อความให้ร้ายตน ติดต่อกันหลายข้อความ ได้ให้นักกฎหมายตรวจสอบ หากเข้าข่ายก็จะดำเนินคดีทุกข้อความ ส่วนคนที่แชร์ข้อความออกไป จะต้องดูที่เจตนาให้ร้ายตนเอง ก็จะพิจารณาดำเนินคดีด้วย

ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี