ลูกจ้างสัญชาติลาวใช้จอบฟันช่างปูนดับคาที่!!

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 4 มีนาคม 2564 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายจนมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 14/1 หมู่ที่ 8 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรายงาน พ.ต.อ.พิภบ พัชรลภัส ผกก.สภ.กระทุ่มแบน แล้วแจ้งให้ พ.ต.ท.ประวิทย์ อาสานอก สารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ไปตรวจสอบพร้อมกับ แพทย์จากโรงพยาบาลกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่สืบสวนฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

โดยที่เกิดเหตุเป็นบริเวณด้านหลังบ้านซึ่งกำลังมีการก่อสร้างบ่อปูนเพื่อเลี้ยงปูนา พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนหงายจมกองเลือดตรงพื้นที่ก่อสร้าง ใกล้กันพบจอบมีคราบเลือดตกอยู่ 1 ด้าม ซึ่งเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายประกาศ นามโคตร อายุ 61 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 294 หมู่ที่ 10 ต.โนนสำราญ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นช่างปูนรับเหมางานก่อสร้างทั่วไป จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบบาดแผลฉีกขาดบริเวณท้ายทอย กว้างประมาณ 6 เซนติเมตร ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนงานก่อสร้างที่ทำงานอยู่กับผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกเจ้าของบ้านรวบตัวไว้ได้อย่างทันควันแล้วมัดเชือกไว้ไม่ให้หลบหนีรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวไปดำเนินคดี ทราบชื่อต่อมาคือ นายเพช ไสยวงค์ อายุ 43 ปี สัญชาติลาว

นายนิวัฒน์ อิทธิวรพันธ์ อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุเล่าว่า ตนเองกำลังจะสร้างบ่อเลี้ยงปูนาบริเวณด้านหลังบ้าน จำนวน 5 บ่อ จึงจ้างช่างปูนและคนงานมาเทพื้นปูนและสร้างบ่อ โดยมีตนเองกับลูกชายมาช่วยทำด้วย ส่วนคนก่อเหตุเป็นคนเทปูน ขณะที่คนตายเป็นคนผสมปูนแล้วลงมือเทพื้น ในตอนนั้นตนสังเกตเห็นความผิดปกติจากการส่งปูนจึงคิดว่าท่าทางไม่ค่อยดี น่าจะมีปัญหากันมาก่อน จนในช่วงจังหวะที่ตนเองหันหลังกลับมาคลุกปูนก็ได้ยินเสียงจอบตีเหมือนกับมะพร้าวแตก พอหันไปก็เห็นคนก่อเหตุกำลังจะฟาดลงไปซ้ำเป็นทีที่สอง แต่ตนเองจับตัวไว้ได้ทันแล้วลากออกมา พร้อมกับให้ลูกชายจับตัวไปมัดไว้ ด้านช่างปูนได้เสียชีวิตไปแล้ว

ขณะที่นายกรมิษฎ์ อิทธิวรพันธ์ อายุ 26 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านเล่าว่า ผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตมาทำงานด้วยกันตั้งแต่ตอนเช้า โดยตอนนั้นก็มีแค่การโต้เถียงกันนิดหน่อยแต่ไม่รุนแรง จนกระทั่งในช่วงที่ผู้เสียชีวิตกำลังผสมปูนอยู่ใกล้ๆ กับผู้ก่อเหตุ จู่ๆ คนร้ายก็เอาจอบตีลงไปที่ท้ายทอยของผู้เสียชีวิต 1 ที จนล้มฟุบลงไปเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนร้ายนั้นถูกจับตัวไว้ได้อย่างทันควัน แล้วตนก็ใช้เชือกผูกมัดไว้ รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการ

ทั้งนี้หลังจากที่แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด ก็ได้ส่งศพไปชันสูตรอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ส่วนคนร้ายนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที ซึ่งเบื้องต้นคนร้ายได้ให้การยอมรับว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เพราะมีความโกรธเคือง มีปากเสียงระหองระแหงกันมานานแล้ว จนกระทั่งในวันนี้ก็มีเรื่องกันอีกครั้ง ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดลง จึงได้ก่อเหตุใช้จอบฟันท้ายทอยผู้เสียชีวิต

ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร