แม่เฒ่า 64ปี มารับหลานชายเรียนพิเศษ ถูกคนร้ายดึงกระเป๋าสะพายก่อนที่ซิ่งรถจยย.กับพลเมืองดีไล่ติดตามคนร้ายแต่ก็ไม่ทัน
1 min readวันที่4 มีนาคม 2564 เวลา17.30 น. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจงหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้ง มีคนร้ายได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ดึงกระเป๋าสะพาย ภายในซอยสุรทักษ์ แล้วขี่รถจยย. หลบหนีทะลุไปยังซอยพรมประกาย เขตเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้น ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบ นางวัชราภรณ์ ชูจิตต์ อายุ64ปี อยู่บ้านเลขที่ 328 หมู่1 ตำบลบ้านจั่น ผู้เสียหาย ยืนรอตำรวจ ให้การว่า ตนได้ขี่รถจยย. มาจากบ้านพัก เพื่อมารับหลานชายที่เรียนพิเศษ อยู่ใกล้กับโรงเรียนเทศบาล8 พอขับเข้ามาถึงกลางซอยสุรทักษ์ ได้มีคนร้ายสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ใส่เสื้อสีชมพู นุ่งกางเกงขายาว ขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาประกบ ก่อนที่คนร้ายใช้มือทำการผลักแฮนด์ รถจยย. ของตน เพื่อให้รถจยย. ล้มแต่ตนได้ประคองรถจยย.เอาไว้ได้ แล้วคนร้ายก็ได้ดึงกระเป๋าแบบผ้า ของตนที่แขวนเอาไว้แฮนด์รถจยย. ด้านซ้าย ไป
โดยข้างในมีหลักฐาน เอกสารประจำตัว บัตรประชาน บัตรเอทีเอ้ม เงินสด จำนวน3,500 บาท โทรศัพท์มือถือ1 เครื่อง ยี่ห้อวีโว่ขาว แล้วคนร้ายก็ได้ขี่รถจยย. ทะลุไปยังซอยพรมประกาย ตนก็ได้ขี่รถจยย. ไล่ติดตามคนร้าย รวมถึงพลเมืองดี ที่มาเห็นการณ์ ก็ไล่ติดตามไปด้วยกัน โดยคนร้ายมุ่งหน้าไปเส้นสนามบิน แต่ก็ไม่ทัน เพราะเป็นช่วงเวลารถติดเป็นจำนวนมาก
ส่วนนายสุมิตร สุภีคำ อายุ41ปี อยู่บ้านเลขที่329/2 หมู่9 ตำบลโคกสะอาด เจ้าหน้าที่เทศบาลนครอุดรธานี ฝ่ายผลประโยชน์และกิจการพาณิชย์ ได้บอกว่า ในขณะที่ตนขี่รถจยย. เดินทางกลับบ้าน พอขับเข้ามาในซอยสุรทักษ์ เห็นคนร้ายดึงกระเป๋าสะพายของผู้เสียหาย จากรถจยย. ไป ตนก็ได้ขี่รถจยย. ไล่ติดตามคนร้าย มาถึงสามแยก ที่จะมุ่งหน้าไปสนามบิน โดยมีรถเก๋งได้ขับเข้ามา ทำให้ขวางทาง ทำให้ตนขับไปต่อไม่ได้ แต่คนร้ายก็ยังฝืนขับไปต่อ ทำให้รถเก๋งเกือบจะชนรถจยย. ของคนร้าย อย่างหวิดหวุด จึงได้โทรแจ้งตำรวจ
ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน เปิดเผยว่า คนร้ายได้ขับขี่รถจยย. เข้ามาซอย แล้วมาเจอหญิงสูงอายุ ขี่รถจยย. มาคนเดียว พยายามจะทำให้รถจยย. ของผู้เสียหายล้มลง แล้วดึงกระเป๋าสะพายไป เพื่อจะไม่ให้ผู้เสียหาย ขี่รถจยย. ไล่ติดตาม โดยจะให้ตำรวจสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ภายในซอยสุรทักษ์ และซอยพรมประกาย ในการหาเบาะแส ของคนร้าย ให้มากที่สุด เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทณืดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี