วิพากษ์การเมือง ข่าวชัด เม.ย.64 กปปส.นอนคุก ส่งแรงสะเทือน

ในขณะที่ สส.พปชร.ได้มา ต้องเสียไป เพราะอนาคต อาจมี สส.หลุดออกจากตำแหน่ง ไม่น้อยหนึ่งหรือสอง ไม่ต้องเอ่ยชื่อ ทุกคนรู้กันดี สร้างแต่เรื่อง ไม่เคยทำคุณประโยชน์ใดๆให้ประชาชน การปรับ ครม.ยกนี้ ไม่น่าแปลก หรือตื่นเต้นอะไรมากนัก เพราะ คนหน้าเดิมแทงก๊กข้าง คสช.มาตลอด ต้องได้รับตอบแทนบุญคุณ แต่ฝีมือนั้น ขนาดไหน ขออย่าเป็น รมต.พรรคร่วมรัฐบาล ทำงานขายผ้า เอาหน้ารอด ไปวันๆ จนฝ่ายค้านเดินหน้าชน ตั้งแต่หัวขบวน ยันท้ายขบวน ครม.ชุดปัจจุบัน ก็กล้าๆ กลัวๆ เล่นดีอยู่นาน แต่ถ้าพลาดเมื่อไหร่ มีหวังอยู่ทีมเดียวกับ กปปส. เดินเข้าคุกได้เช่นกัน มองไป อดีตกาล พรรคกิจสังคม พรรคปวงชนชาวไทย และพรรคความหวังใหม่ เป็นต้น ก็เจอมรสุม ในรูปแบบนี้มาก่อน ความวุ่นวายเกิดจากตัวคน การเมืองจึงมีพลิกผัน เพราะนักการเมืองไม่รู้จักหน้าที่ตนเองพอ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้นำเองก็รู้ตัวว่า คนเริ่มเบื่อหน่ายวิธีเดิมๆ เผด็จการ พวกมาก ลากไป ก็ไม่ดี เพราะมีแต่เปลืองตัว จำฝืนใจอยู่ ตามสัจจะ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยทำตามคำพูด แม้แต่ประโยคเดียว ต้องกล้ำกลืน ฝืนทน เพราะถ้าจากไป อำนาจหมด คงอยู่ไม่นาน….

7 ปี คสช. ส่งไม้ต่อจัดฉากเลือกตั้ง ให้มีรัฐบาล มั่นคง ยั่งยืน เฉพาะกลุ่ม ส่วนประชาชน เหมือนไก่เลี้ยงในเล้า คอยโปรยข้าวเปลือกและเศษรำ ให้ทุกคนต้องแย่งกันกิน เหมือนสารพัดโครงการที่รัฐจัดให้ ประชาชนต้องเข้าคิวลงทะเบียนอัปยศ แย่งกันรับ ดั่งงานสาร์ทเดือนสิบ

รัฐบาลจัดฉากความสมบูรณ์แบบได้เยี่ยม เพราะใช้รัฐศาสตร์มาร ผสมผสานการปกครอง สำรองด้วยกฎหมาย เล่นงาน คนเห็นต่างทุกเม็ด ซึ่งเป็นเกราะป้องกันตัวอย่างดี จนเห็นฝ่ายคิดต่างเดาเข้าคอก ยัดด้วยหลากข้อหา จะได้ไม่เห็นหน้ากันอีกนาน พฤติกรรมยัดข้อหา ถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน ซึ่งหมายความว่า รัฐเอาอดีตมาเป็นตัวกำหนด การปกครองประเทศ ไม่รับของใหม่ที่นานาประเทศใช้ในการพัฒนา ไปสู่ชาติที่ยั่งยืน สิ่งที่เกิดขึ้น รัฐได้นำโครงสร้างเก่ามาปรับใช้ ใส่วิธีคิด ลบเลขเก่า ให้หมวดเลขใหม่ ให้ดูเป็นของตนต้นคิด เพื่อตบตาประชาชน ทั้งที่ล้าสมัยเต็มทน

ประชาชนเริ่มมองเห็นทาสแท้ในรัฐบาล ที่เป็นนักขายภาพ ซึ่งขายได้จากวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 พูดกันสามวันไม่จบ ไม่รู้ประชาชนจะได้รับสิทธินั้นหรือไม่ เพราะดูแล้ว มีแต่พวกท่าน ท่าน และท่านทั้งหลาย ได้รับสิทธิก่อนประชาชน

สรุปแล้ว ประชาชนคือผู้อาศัยในแผ่นดิน ไม่มีสิทธิมีเสียง ดังไปกว่าพวกท่าน ที่ยกตนเป็นชนชั้นปกครอง อดสูยิ่งนัก คำถามจากประชาชนดังๆเป็นเพราะประชาชนไร้ศรัทธาในรัฐบาลชุดนี้ กระนั้นหรือ เป็นเพราะประชาชนไม่ใช่พวกพ้องหรือไม่ เป็นเพราะประชาชนไม่ใช่เผด็จการหรือไม่ คำถามเหล่านี้ อาจไม่มีคำตอบ แต่พฤติกรรม รัฐบาลแสดงออก ที่ผ่านมา แกนนำ คนคิดต่าง ถูกหน่วยงานรัฐ ใส่ข้อหาเพิ่ม มันยุติธรรมหรือไม่ ซึ่งอาจมองแง่ จับผีลุก ปลุกผีตื่น ต่อไป คนหนุ่มสาว จะออกมากันมากขึ้น เพื่อเรียกร้องความถูกต้องจากรัฐบาล หากยังมีการเสียน้ำตา จากผู้ถูกกระทำ

คดีของแกนนำ กปปส. เป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคมไทย ซึ่งคนไทย จำนวนไม่น้อย ก็มิได้เห็นดี เห็นชอบกับ กปปส.มากนัก เพราะพฤติกรรมเช่นนั้น เป็นเหตุที่ดึง คสช.เข้ามายืนบนอำนาจ เป็นเวลา 7 ปี คำพูดของ คสช.ทุกคำ ทำไม่ได้ ปฏิรูปแล้ว เลือกตั้ง เลือกตั้งแล้วปฏิรูป ทำไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ยังจับฉลาก ให้พวกพ้อง กระจายไปคุมหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน บางที่ไปอุดเป็นกระจุก ระบบการเมือง คสช. ทำลายจารีตวัฒนธรรมการเมืองไทย นำระบบ พวกมาก ลากไป ระบบอุปถัมภ์พวกพ้อง แม้แต่ สว.ก็เฉกเช่นกัน

ความพยายามไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยืนข้างเผด็จการ มันจม ลุ่มลึกในห้วงเหว สุดท้ายจมปลักในโคลนตม ยากแท้ที่จะขุดขึ้นมาอยู่บนหิ้งบูชา ต้องเขี่ยทิ้งไปเช่นเศษขยะ ในกากเท่านั้น

โปร่ง พญาไม้