บรรยากาศงานประเพณีลอยกระทงในพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือคึกคัก (มีคลิป)
1 min readวันที่ 11 พ.ย.62 ณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทง บริเวณวัดพิกุลทอง หมูที่ 6 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายประภัสสร ตุนาคุน เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2562 หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนในพื้นที่ตำบลกะลุวอเหนือเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก ซึ่งประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่มีชุมชนต่างๆที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำต่างๆซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจที่แตกต่างกัน เพื่อแสดงความสำนึกบุญคุณของน้ำที่ได้นำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งขอขมาลาโทษในการทำให้แหล่งน้ำไม่สะอาด บูชารอยพระพุทธบาท และบูชาเทพเจ้าตามคติความเชื่อ รักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และรู้ถึงคุณค่าของน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของชาวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ


ส่วนบรรยากาศในงานลอยกระทงในปีนี้ บรรดาผู้ผลิตและขายกระทงต่างพร้อมใจกันนำวัสดุธรรมชาติมาทำกระทงขายในราคาที่ไม่แพง จึงได้รับความนิยมจากประชาชนต่างหันมาช่วยซื้อกระทงจากธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยสร้างรายได้คืนสู่พื้นที่ โดยประชาชนส่วนใหญ่จะนำครอบครัว ลูกหลายมาร่วมลอยกระทงกันเป็นครอบครัว อีกทั้งเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ในพื้นที่ต่างมาเที่ยวและร่วมลอยกระทงกันเป็นจำนวนมากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆอยู่ตลอดเวลา และยังสร้างรางลอยกระทงลงแม่น้ำบางนรา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาร่วมงานอีกด้วย และยังมีกิจกรรม ประกวดกระทงเล็ก, กระทงใหญ่ ประเภทสวยงาม, และความคิดสร้างสรรค์, การประกวดกระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ, การประกวดธิดานพมาศ,ธิดานพมาศ รุ่นอายุ 6-10 ปี การแสดงดนตรี, รำวง


นายประภัสสร ตุนาคุน เลขานุการนายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ กล่าวว่า การจัดงานประเพณีลอยกระทงนั้น เป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราได้ปฏิบัติสืบทอดต่อๆกันมา จนกลายเป็นวัฒนธรรมของชาติที่งดงาม บ่งบอกถึงคุณค่าและลักษณะของความเป็นไทยอย่างแท้จริง และเราทุกคนต่างมุ่งหวังให้เยาวชนรุ่นต่อๆไปมีการสืบสาน และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นชาติที่มีอารยธรรมมาตั้งแต่โบราณให้คงอยู่สืบไป
“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักร่วมกันก็คือ ในการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย ต้องทำควบคู่กันไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะปัจจุบันแหล่งน้ำจากธรรมชาติ ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของมวลมนุษยชาติ จึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลอย่างดีที่สุด ทุกฝ่ายต้องตระหนักให้ความร่วมมือจัดกิจกรรมรณรงค์คืนความสะอาด ความสมบูรณ์ให้แก่แม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่างๆ ร่วมกันรณรงค์ให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่ายในการประดิษฐ์กระทง หลักเลี่ยงการใช้โฟมทำกระทง หรือการใช้วัสดุอื่นๆที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อแหล่งน้ำ”


ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส