หวิดดับ! ล้อรถบรรทุกพ่วงหลุดใส่ “แม่ค้า” ขายผลไม้ข้างทางสลบ
1 min read
ปราจีนบุรี-อุทธาหรณ์ เตือนภัย แม่ค้าริมทาง ระวังภัย นั่งขายของอยู่ดีๆอาจจะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดวิ่งมาหาโดยไม่รู้ตัว นอกจากลูกค้าแล้วก็คือล้อรถบรรทุกขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับแม่ค้าและชาวบ้านรายนี้
เมื่อช่วงสายของวันที่ 17 มี.ค.64 ร.ต.อ.มงคล ลารินทา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่า มีรถบรรทุกพ่วงล้อรถหลุดชนแม่ค้าขายผลไม้ข้างทางสลบ 1 ราย ที่บริเวณแผงขายผลไม้ หมู่ 9 ต.ดงขี้เหล็-ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี หลักกิโลเมตรที่ 158-159 ถนนสุวรรณศร 33 ปราจีนบุรี – ประจันตคาม
หลังรับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่แผงขายผลไม้มีล้อรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ ชนอยู่กับแคร่ขายผลไม้ จนทำให้ผลไม้กระจัดกระจายแคร่ขายผลไม้พัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นางสมัย ขยันคิด อายุ 67 ปี เจ้าของแผงขายผลไม้ ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้สติ หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้แพทย์ทำการรักษา ห่างไปประมาณ 500 เมตร พบรถบรรทุกพ่วงอีซูซุสีขาว ทะเบียน 70-1234 สิงห์บุรี ของบริษัท แต้พังเฮ็ง ทะเบียนลูกพ่วง 70-1235 สิงห์บุรี จอดอยู่ข้างไหล่ทาง ที่บรรทุกถ่านหินมาเต็มคันรถ น้ำหนักประมาณ 50 ตัน จากการตรวจสอบสภาพรถพบว่า ล้อลูกพ่วงด้านหน้าขวาหลุด ทั้ง 2 ล้อ เหลือแต่กระดุมล้อ
จากการสอบสวนทราบว่า นายณัฑพล โพธิไพศาล อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 5 อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ได้ขับรถบรรทุกถ่านหินมาจาก อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำถ่านหินไปส่งที่โรงงานในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยใช้เส้นทางถนน33 สายสุวรรณศร เมื่อรถวิ่งไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุล้อเกิดหลุดไปใส่ร้านค้าขายมะยงชิดข้างทาง จนทำให้แผงผลไม้และผลไม้พังเสียหาย ส่วนนางสมัย ขยันคิด อายุ 67 ปี เจ้าของแผงขายผลไม้ได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา คนขับรถบรรทุกพ่วงในข้อหา ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
จากการสอบถาม นายณัฑพล โพธิไพศาล อายุ 40 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง กล่าวว่า ได้ขับรถบรรทุกถ่านหินมาจาก อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนำถ่านหินไปส่งที่โรงงานในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี โดยใช้เส้นทางถนนสาย 33 สุวรรณศร ช่วงที่ล้อแรกหลุดนั้นตนไม่ทราบ มาทราบอีกครั้งในช่วงล้อวงที่ 2 หลุดเหลือแต่กระดุมล้อจึงทราบว่าล้อหยุด
นายอำนวย พรหมนนท์ อายุ 61 ปี น้องชายป้าที่ได้รับบาดเจ็บ ทราบข่าวจึงได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ ได้กล่าวว่า ร่องรอยน็อตขาดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ก็ยังนำรถออกมาใช้งาน โดยไม่มีการเชครถ น็อตที่ยึดล้อทั้งหมด 8 ตัว แต่เหลืออยู่ 3 ตัว รับทั้งน้ำหนักกระบะรถและสินค้า ตัวหนึ่งประมาณ 7 หุน รับน้ำหนักเท่าไร บริษัทไม่เช็ครถก่อนออกมาใช้งาน ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านตาดำ ๆ ฝากเรื่องนี้ให้ผู้ที่รับผิดชอบช่วยดูแลด้วย ท่านมีรถราคาหลายล้าน น็อตตัวละไม่ถึงพันบาท ท่านไม่เช็ค ท่านปล่อยให้เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน มูลค่าชีวิตของชาวบ้าน ที่รถแบกน้ำหนักมาจากอยุธยา มีเพียงน็อต 3 ตัวเท่านั้น
จากการสอบถาม นางสลับ ตระกูลป้อง อายุ 63 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวว่า ตนเองกำลังนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์และคุยอยู่กับนางสมัย ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรกระทบกับแผงผลไม้ เมื่อหันไปพบ นางสมัยล้มอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ จึงเรียกคนมาช่วยเหลือ
ส่วน นางคำพูล คุ้มทอง แม่ค้าที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ได้ยินเสียงรถดังมาก ก็หันไปดู เห็นล้อรถยนต์กำลังหลุดจากตัวรถ เพราะเรานั่งอยู่ตรงนี้พอดี ล้อรถวิ่งตามรถไป คิดอยู่ว่าล้อรถต้องเข้าร้านยายไหม และวิ่งไปดูเข้าไปที่ร้านนางสมัยจริงๆ
ข่าว /ภาพ สายชล หนูแดง จ.ปราจีนบุรี