อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

จับแล้ว!โจรช้ำรัก ตระเวนก่อเหตุลักปืน นำไปขาย หาเงินซื้อเหล้ามาดื่มเพื่อลืมเธอ!

1 min read


วันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายพิษณุ ทิพมนต์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ต.ม่วง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ผู้ต้องหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน” พร้อมของกลาง อาวุธปืนสั้นยี่ห้อ SIG SAUER ขนาด 9 มม. 1 กระบอก แม็กกาซีน จำนวน 2อัน ลูกปืนขนาด9 มม. จำนวน 5นัด และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ขขธ 395 หนองคาย หมวกกันน๊อค เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่หอพักมีชื่อแห่งหนึ่ง ในซอยพลนามอินทร์ ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงควบคุมตัวไปโรงพักทำการสอบสวน
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ออกไปสอบสวนเหตุลักทรัพย์ บ้านเลขที่ 555/1 หมู่ 2 ต.บ้านจั่น ซึ่งเป็นบ้านนายพิจิตร พรหมจารีย์ อายุ 45 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ให้การว่า เช้าวันนี้ตนและภรรยาไปทำงาน ส่วนลูกไปโรงเรียน โดยปิดบ้านไว้ กระทั่งเลิกงาน ภรรยากลับมาบ้านพบประตูหลังโดนงัด โจรเข้ามารื้อค้นและลักทรัพย์สิน สุรา สว่านไฟฟ้า มีอาวุธปืนยี่ห้อ SIG SAUER ขนาด 9 มม.1 กระบอก ส่วนปืนยาวอีก 2 กระบอก พบว่าคนร้ายเอาไปซุกซ่อนหลังตู้หลังบ้าน หลังได้รับแจ้ง ตำรวจได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายมาก่อเหตุและหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายคือนายพิษณุ จึงเข้าจับกุม ได้พร้อมของกลาง


พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้ทำการสอบปาก นายพิษณุ ให้การรับสาภาพว่า เคยเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อปี 54-55 เมื่อปลดประจำการ ได้กลับไปทำงานที่บ้าน พอปี 2563 ได้มาสมัครเข้าทำงานเป็นลูกจ้างในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เงินเดือน 8,000 บาท ต่อมาตนอกหักเพราะแฟนสาวที่รักกันมา 10 ปี บอกเลิกเพราะไปมีคนใหม่ ทำให้ตนเสียใจเป็นอย่างมากเพราะเวลาอยู่ด้วยกันตนไม่เคยมองหรือสนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากแฟนของตนเอง จึงหันมาดื่มเหล้าเพื่อคลายความเจ็บช้ำและเสียใจ พอดื่มหนักเข้าทำให้เงินไม่พอใช้ ตนจึงก่อเหตุงัดบ้านลักทรัพย์ โดยเลือกบ้านที่มีฐานะ ไม่มีคนเฝ้าและคล้องกุญแจประตูรั้วไว้ เพราะคิดว่าบ้านเหล่านี้จะมีทรัพย์สินมากและมีอาวุธปืนที่ตนชื่นชอบเป็นส่วนตัวด้วย ซึ่งตนเคยใฝ่ผันอยากเป็นทหาร ตำรวจ เคยไปสอบแต่ไม่ได้

โดยในช่วงปีใหม่ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุงัดบ้านที่ อ.เพ็ญ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ได้ทรัพย์สินและปืน 2 กระบอก นำปืนไปขายหรือจำนำ ที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย กับคนที่รู้จักกัน ได้เงินมาก็ไปซื้อเหล้าดื่ม เพื่อให้ลืมแฟนที่ทิ้งไป พอเงินหมดก็มาก่อเหตุที่บ้าน รอง ผอ.สพป.อุดรธานี เขต 1 โดยก่อนก่อเหตุ ประมาณ 1 สัปดาห์ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำบุญที่วัดข้างบ้านเกิดเหตุ และเห็นบ้านผู้เสียหายหลังใหญ่โตคิดว่าน่าจะมีทรัพย์สินและปืนด้วย วันเกิดเหตุตนดื่มเหล้าย้อมใจ เสร็จแล้วขี่รถจักรยานยนต์มาวนดูบ้านผู้เสียหาย 1 รอบ จอดรถหน้าประตูรั้วพบกุญแจคล้องไว้ ทำให้มั่นใจว่าไม่มีคนอยู่บ้าน จึงขี่รถไปจอดข้างบ้านแล้วเดินไปหลังบ้านปีนกำแพงรั้วเข้ามาลักทรัพย์สิน พบปืนสั้นขนาด 9 มม. 1 กระบอก ปืนยาว 2 กระบอก ที่ตนชอบ ตนลักเอาปืนสั้นกระบอกเดียว เพราะปืนยาวไม่มีกระเป๋าใส่ จึงนำไปซ่อนไว้ตู้หลังบ้าน เพื่อจะย้อนกลับมาเอาวันหลัง แล้วนำเหล้าที่อยู่ในบ้านเอาไปด้วย ส่วนสว่านไฟฟ้า ได้ทำตกหล่นหายไปตอนขี่รถจยย. หลบหนีกลับไปที่พัก กำลังจะนำปืนไปขายก็มาถูกตำรวจจับเอาไว้ได้ก่อน


ส่วนนายพิจิตร พรหมจารีย์ อายุ 45 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับโจรได้ พร้อมติดตามอาวุธปืน 9 มม.คืนมา เพราะตลอดเวลาปืนหายไป ตนกังวลใจมาก เกรงว่าโจรจะนำปืนไปก่ออาชญากรรม จะทำให้ตนเดือดร้อนไปด้วย ขอบคุณตำรวจอุดรธานี ที่ติดตามจับกุมคนร้ายและนำปืนมาคืนตนได้ ถือว่าตำรวจอุดรธานีเก่งไม่แพ้ตำรวจที่อื่น

ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.