ผงะ!! หนุ่มอายุ 35 ปี ผูกคอตายบนเกาะกลางถนนสายอุดร-หนองบัวลำภู ญาติเผยหลอนบอกว่าจะมีคนฆ่า
1 min readวันที่ 28 มีนาคม 2564 เวลา 06.50 น. พ.ต.ท.เปลวทอง สารีนันท์ สารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากประชาชนที่ขับรถสัญจรผ่าน บริเวณถนนเลี่ยงเมือง สายอุดร- หนองบัวลำภู ตำบลหมากแข้ง มีคนผูกคอเสียชีวิต อยู่ที่บนเกาะกลางถนน จากนั้นพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดแหตุพบศพผู้เสียชีวิต เป็นชายไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ ขายาวสีน้ำเงิน ใช้เสื้อกันหนาวแขวนยาวสีน้ำเงินผูกคอตายเข้ากับต้นไม้ บนเกาะกลางถนน ทราบชื่อคือ นายอนัฐ แสงแก้ว อายุ35ปี อยู่บ้านเลขที่133 หมู่14 ตำบลชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่พื้นมีธนบัตรฉบับละ20 บาท จำนวน1 ฉบับ คาดว่าจะเป็นของผู้ตายได้ทำตกหล่นเอาไว้ แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิต มาได้ประมาณ5-12 ชั่วโมง
นายภูชิต สถิต ค่าย อายุ21ปี ญาติของผู้ตายให้การว่า หลังจากตนกลับมาจากเล่นน้ำ ผู้ตายได้มาหาตนที่ห้องพัก มีลักษณะ เหมือนคนเมาแล้วหลอน บอกว่าจะมีคนมาฆ่า จะมาทำร้าย ขี่รถตามตัวเองมา ตนก็ได้บอกให้ผู้ตายกลับไปนอนพักที่บ้าน แต่ผู้ตายไม่ยอมกลับ จนถึงเวลา21. 00 น. ตนรู้สึกเพลี้ยและง่วง อยากนอนพัก จึงพาผู้ตายไปส่งที่บ้านพัก แต่ก่อนผู้ตายเวลาเมาเหล้าจะพูดจารู้เรื่อง แต่เมื่อคืนนี้ผู้ตายพูดแต่คำเดียวว่ามีคนจะมาฆ่าตัวเองอยู่ตลอด ซึ่งเห็นอาการแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะไปฆ่าตัวตาย
นายประสาท งาคม อายุ 65 ปี พ่อเลี้ยงของผู้ตาย ได้บอกว่า ลูกเลี้ยง มีอาชีพรับจ้างทำการงานก่อสร้าง แต่จะดื่มเหล้าเป็นประจำ เมื่อคืนนี้ช่วงหัวค่ำ ในขณะที่นั่งกินข้าว อยู่ในบ้านพัก เห็นลูกเลี้ยงเดินเข้ามาในบ้าน บ่นว่าจะมีคนมาฆ่า อยู่บริเวณหน้าบ้าน อยากจะไหว้พระ แล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่ห้องครัวหลังบ้าน ตนคิดว่าลูกเลี้ยงคงเมาแล้วพูดจาไปทั่ว จึงได้บอกเขาให้เข้าไปนอน แล้วตนก็เดินออกไปดูหน้าบ้านก็ไม่เห็นมีใคร ตามที่ลูกเลี้ยงพูดขึ้นมาว่าจะมีคนมาฆ่า จนกระทั่งเวลา02.00 น. แม่ของผู้ตาย ได้ตื่นขึ้นมาไม่เห็นลูกชาย นอนอยู่ในบ้าน ก็มาปลุกตน จึงพากันเดินออกตามห่าง ตามสถานที่ลูกชายเคยไป แต่ก็ไม่พบตัว ก็เลยกลับเข้าบ้านไป แล้วชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกเลี้ยงผูกคอตายบนเกาะกลางถนน จึงได้ออกมาดู แต่แม่ของผู้ตายพอทราบข่าว ถึงกับเป็นลม ออกมาไม่ได้ จึงให้นอนพักอยู่บ้าน
จากนั้นตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้มูลนิธิฯ นำร่างผู้เสียชีวิต เอาไปไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ เพื่อทำการชันสูตร อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบศพให้ญาติ นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี