จันทบุรี สงกรานต์ปีนี้ไม่มีแรงงานเขมรกลับบ้าน ไทย – กัมพูชาปิดทุกด่านชายแดน ห้ามข้ามแดนเด็ดขาดป้องกันโควิด!

สงกรานต์ปีนี้ไม่มีแรงงานเขมรกลับบ้าน ไทย – กัมพูชาปิดทุกด่านชายแดน ห้ามข้ามแดนเด็ดขาดป้องกันโควิด ท่ามกลางบรรยากาศสุดเงียบเหงา ขณะที่ปัญหาแรงงานภาคการเกษตรเริ่มส่งผลขาดแคลนแรงงาน

     วันที่ 11 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวร หมู่บ้านแหลม หมู่ 4 ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เป็นบรรยากาศการเดินทางกลับประเทศของแรงงานชาวกัมพูชา และชาวลาว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีแรงานจากประเทศเพื่อนที่ทำงานในจังหวัดต่าง ๆ เดินทางมายังจุดผ่านแดนถาวรแห่งนี้ เพื่อไปฉลองเทศกาลสงกรานต์กับครอบครัวตนเหมือนทุกปีที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเฝ้าระวังการข้ามแดนระหว่างไปมาระหว่างไทย กัมพูชา อย่างเข้มงวด มีการตรวจเอกสารรถทุกคันที่ข้ามแดนจากกัมพูชาเพื่อเข้าไทยว่าได้รับอนุญาต มีเอกสารถูกต้องหรือไม่ มีการตรวจหาชาวกัมพูชาเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนและฉีดพ่นน้ำยาป้องกันไวรัสโควิด 19 ให้รถข้ามแดนทุกคัน ขณะที่ทั่วทั่งจุดผ่านแดนมีเพียงร้านค้าของพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชาในจุดผ่านแดนถาวรดังกล่าว เปิดขายสินค้าต่าง ๆ ในสภาพการค้าที่ซบเซา เนื่องจากไม่มีแรงงานต่างด้าวซื้อสินค้ไปฝากญาติพี่น้อง หรือขนสัมภาระจากหลายจังหวัดก่อนข้ามกลับประเทศกัมพูชา เหมือนที่เคยเป็นมาในช่วงเวลานี้ในทุกปี

 ด็อกเตอร์รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ เพราะชายแดน จ.จันทบุรี ไม่เปิดหน้าด่านให้กลับบ้าน ยกเว้นรถบรรทุกสินค้าจากไทยและกัมพูชายังสามารถบรรทุกสินค้าค้าขายต่อกันได้เป็นปกติ สาเหตุที่แรงานจากเพื่อนบ้านกลับบ้านไม่ได้ 

    เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ยังไม่จบ รวมทั้งในกัมพูชาก็เช่นเดียวกันกำลังมีการระบาดรอบใหม่ จึงต้องเฝ้าระวังเรื่องการข้ามแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างเข้มข้น ที่สำคัญมีคำสั่งจากรัฐบาลห้ามการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามจังหวัด ทำให้ปีนี้ไม่มีแรงงานทั้งจากกัมพูชา ลาวและเมียนมาร์ กลับประเทศเพื่อไปใช้เวลาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ภายในประเทศตน โดยแรงงานชาวกัมพูชาในไทย มองว่า หากอยู่ในไทยในช่วงสงกรานต์จะปลอดภัยกว่า และไม่ต้องกักตัว 14 วันในกัมพูชาด้วย ที่สุดจึงไม่มีแรงงานกลับบ้านแต่อย่างใด 

ด็อกเตอร์รัฐวิทย์ เปิดเผยอีกว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ แต่กลับไม่ได้ทำให้ปัญหาความขาดแคลนแรงานสำหรับการเก็บเกี่ยวผลไม้ใน จ.จันทบุรี กับจังหวัดอื่นในภาคตะวันออก ที่จะเริ่มออกสู่ตลาดมีปัญหาลดลงแต่อย่างใด และกำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของชาวสวน เพราะต่างต้องการใช้แรงงานให้พอกับการเก็บผลผลิต จำเป็นต้องเปิดให้มีการนำแรงงานเข้ามาในช่วงเวลานี้ เพื่อแก้ปัญหา เรื่องนี้สามารถทำได้เพราะเป็นแรงงานจาก จ.ไพลิน หรือ จ.พระตะบอง ที่มีพรหมดแดนติด จ.จันทบุรี ไม่ใช้แรงงานจากจังหวัดอื่นในกัมพูชา 

“ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป จะเป็นฤดูเก็บผลไม้อย่างเต็มที่ เรื่อยไปจนถึงเดือน มิ.ย. ต้องใช้แรงงานนับหมื่นคน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ” ด็อกเตอร์รัฐวิทย์ กล่าว.

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา  ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย  พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก