ยโสธร เจ้าของอู่รถโร่ร้องสื่อผู้มีสี นามสกุลดัง หลังนำรถยนต์มาซ่อม ชิ่งเงินประกันไม่มาจ่ายเกือบสามแสน
1 min readยโสธร เจ้าของอู่รถโร่ร้องสื่อผู้มีสี นามสกุลดัง หลังนำรถยนต์มาซ่อม ชิ่งเงินประกันไม่มาจ่ายเกือบสามแสน พึ่งทนายฟ้องฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์
เวลา 10.30 นาที ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางบุษกร แก่นแก้ว อายุ 54 ปี เจ้าของอูมั่นคงเจริญยนต์ ยโสธร อยู่บ้านเลขที่ 145 หมู่ 8 ต.น้ำคำใหญ่ อ.เมืองยโสธร จ. ยโสธร ร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือนร้อนจากคนมีสี (ส.ต.อ.ภุชงค์ เวชกามา) จากการเข้าไปใช้บริการซ่อมรถยนต์ในอู่มั่นคงเจริญยนต์แล้วไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมรถยนต์หลังจากที่ซ่อมรถยนต์เสร็จเรียบร้อยและมีการตรวจรับรถของบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนฯ (บริษัทที่เจ้าของรถทำประกันภัยรถยนต์ไว้) ผู้ใช้บริการซ่อมรถไม่ยอมจ่ายเงินค่าซ่อมรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ-2610 ยโสธร เป็นจำนวนเงิน 294,000 บาท ซึ่งมีนางมะลิวรรณ ชำนิป่า อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 1 ต.สงเปือย อ. คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว ได้มอบเรื่องการดูแลเรื่องซ่อมรถให้นางสาวพิลาพร(ภคพร ชำนิป่า)และสิบตำรวจเอกภุชงค์ เวชกามา เป็นญาติรู้จักและสนิทสนมกับลูกสาวเจ้าของรถเป็นอย่างดีให้เป็นผู้ติดตามเรื่องการซ่อมรถคันดังกล่าวแต่ไม่ยอมจ่ายค่าซ่อม
ผู้เสียหาย(เจ้าของอู่)ได้เข้าไปพบ พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ ที่ สภ.เมืองยโสธรในวันที่ 29 มกราคม 2564 ช่วงเวลา 14.00 น. โดยมีลูกสาวของเจ้าของรถและญาติคนสนิท(ส.ต.อ.ภุชงค์ เวชกามา) ได้มาพูดคุยตกลงกันต่อหน้า พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาทีมข่าวได้เดินทางไปพบ นางบุษกร แก่นแก้ว เจ้าของอูมั่นคงเจริญยนต์ ยโสธร ซึ่งได้แต่งตั้งทนายความ นายจรณะ วันแต่งและทนายฉาย ตากกระโทก เป็นตัวแทนของผู้เสียหายในการฟ้องร้องเอาผิดกับจำเลยทั้ง 3 คนจากเหตุการณ์ร้องเรียนเกี่ยวกับความเดือนร้อนจากคนมีสี (ส.ต.อ.ภุชงค์ เวชกามา) เข้าไปใช้บริการซ่อมรถยนต์ในอู่มั่นคงเจริญยนต์แล้วไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมรถยนต์หลังจากที่ซ่อมรถยนต์เสร็จเรียบร้อยและมีการตรวจรับรถของบริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนฯ (บริษัทที่เจ้าของรถทำประกันภัยรถยนต์ไว้) ผู้ใช้บริการซ่อมรถไม่ยอมจ่ายเงินค่าซ่อมรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ-2610 ยโสธร เป็นจำนวนเงิน 294,000 บาท ซึ่งมีนางมะลิวรรณ ชำนิป่า อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 หมู่ 1 ต.สงเปือย อ. คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว ได้มอบเรื่องการดูแลเรื่องซ่อมรถให้นางสาวพิลาพร(ภคพร ชำนิป่า)และสิบตำรวจเอกภุชงค์ เวชกามา เป็นญาติรู้จักและสนิทสนมกับลูกสาวเจ้าของรถเป็นอย่างดีให้เป็นผู้ติดตามเรื่องการซ่อมรถคันดังกล่าวแต่ไม่ยอมจ่ายค่าซ่อม
น.ส.ธนิศานันท์ ทุมวงค์ ผู้จัดการอู่มั่นคงเจริญยนต์ ยโสธร(ใส่เสื้อเขียว) ได้เปิดเผยถึงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ว่า คนมีสี (ส.ต.อ.ภุชงค์ เวชกามา) ได้นำรถเข้ามาซ่อมที่อู่ ทางอู่ก็ซ่อมตามกระบวนการซ่อมทั่วไป คนมีสีไม่พอใจที่มีกระบวนการซ่อมรถช้าเพราะขึ้นอยู่กับการเครมประกันภัยในการตีราคา ในส่วนของอู่ก็ซ่อมรถตามกระบวนการจนใกล้จะแล้วเสร็จ เมื่อจะมีการส่งมอบคู่กรณีก็ไม่พอใจที่ทางอู่ซ่อมช้าเกินไปทางอู่จึงได้นำเงิน 14,000 บาท ไปมอบให้นางสาวพิลาพร เพื่อให้เป็นค่าใช้จ่ายตามที่นางสาวพิลาพร ขอมากับทางอู่เพื่อให้คู่กรณีเกิดความสบายใจ แต่คู่กรณีก็ยังไม่เกิดความพอใจยังมีการขอเงินเพิ่มเติมกับทางอู่อีก ทางอู่เริ่มไม่แน่ในกับพฤติกรรมของคู่กรณีจึงยังไม่ให้ จนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นสร้างความไม่พอใจของคู่กรณีเลยกลายเป็นเรื่องราวต่างๆตามมารวมถึงยังเคยส่งข่าวเหตุการณ์เจ้าของอู่โดนยิงมาให้ในเฟสบุ๊คหลายครั้งรวมถึงการส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ว่า”ลูกปืนราคาไม่แพง” เหมือนต้องการทำให้พนักงานและเจ้าของอูมั่นคงเจริญยนต์ ยโสธร เกิดความกลัว เจ้าของอู่จึงได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่อู่เพราะเกิดความกลัวกับพฤติกรรมของคนมีสีคนนี้
ทางด้าน นางบุษกร แก่นแก้ว เจ้าของอูมั่นคงเจริญยนต์ ยโสธร(เสื้อชมพูลายดอก) ได้กล่าวว่า อู่ของตนต้องกู้หนี้ยืมเงินดอกลงทุน ยิ่งมาเจอโรคโควิด-19 ประกอบกับมีลูกน้องนับสิบคนต้องดูแล ตนกลุ้มอย่างหนักยิ่งมาเจอพฤติกรรมของคนมีสี (ส.ต.อ.ภุชงค์ เวชกามา) ทำให้ตนต้องคิดหนักไปอีก โดยเฉพาะเสียงร่ำลือจากหลายๆคนที่เคยเล่าถึงพฤติกรรมของผู้มีสีคนนี้เขาไม่ธรรมดา เคยไปขอความเมฆตาเพื่อขอไกล่เกลี่ยจากผู้บังคับบัญชาเขาแล้วเรื่องยังไม่คืบหน้าเลย ตนเป็นผู้เสียหายลงทุนกวาแสนบาทอยากให้เขามาตกลงกันด้วยดี แต่ไม่ได้รับการประสานจากเขาเลย ตนเองเป็นชาวบ้านทำมาหากินจึงไม่อยากจะให้มีตุการณ์อย่างนี้เลย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเข้าที่ผ่านมาเจ้าของอู่ได้มอบหมายให้ นายจรณะ วันแต่ง และทนายฉาย ตากกระโทก ทนายความทั้งสอง ได้ไปยื่นฟ้องที่ศาลจังวัดยโสธรในการกระทำของจำเลยทั้งสามคนได้แก่ 1. นายหรือสิบตำรวจเอกภุชงค์ เวชกามา อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 10 ต.เขื่องคำ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร 2. นางสาวพิลาพรหรือภคพร ชำนิป่า อยู่บ้านเลขที่ 84/1 ถ.เทศบาล 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร 3. นางมะลิวรรณ ชำนิป่า อยู่บ้าเลขที่ 219 หมู่ 1 ต.สงเปื่อย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ทั้งสามคนได้ที่ร่วมกันเจตนาฉ้อโกงโจทก์และร่วมกันเจตนายักยอกทรัพย์โจทก์
ข่าว/ภาพ แมวจ๋า ปริยากร กลมเกลียว