นนทบุรี ทำแผน รวบโจรมารยาทดียกมือไหว้พระขอขมาก่อนลงมืองัดแงะตู้บริจาค

นนทบุรี ทำแผน รวบโจรมารยาทดียกมือไหว้พระขอขมาก่อนลงมืองัดแงะตู้บริจาค
   เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 เมษายน 2564 ที่วัดท่าเกวียน ถ.ราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล
ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี อง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันควบคุมตัวนายชาติ หนูชัย อายุ 41 ปี ที่อยู่ 51 หมู่ที่ 13 ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พักอาศัยอยู่ที่ภายในซอยหมู่บ้านนารีนคร เลขที่ 64/6 หมู่ที่ 1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 00/2564 ลงวันที่ 28 เม.ย. 2564 ข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นส ำหรับคุ้มครอง ทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จจำนวน 1 คัน 2.เสื้อยืนแขนยาวสีน้ำเงิน ด้านหลังสกรีนคว่า เอส.สตีลเซ็นเตอร์ จำนวน 1 ตัว 3.กางเกงยีนส์ขายาว สีดำ จำนวน 1 ตัว 4.รองเท้าผ้าใบสีดำจำนวน 1 คู่ 5.กระเป๋าสะพายสีดำ จำนวน 1 ใบ  6.เหล็กเส้น ดัดแปลงเป็นเครื่องมือใช้สำหรับงัดตู้  7.ไขควง 8.ใบเลื่อยเหล็ก จำนวน 1 อัน

    โดยนำตัวนายชาติผู้ต้องหาเดินทางไปยังวัดท่าเกวียนเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพเนื่องจากนายชาติได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกตระเวนงัดตู้บริจาคตามวัดต่างๆ ภายในเขตพื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งก่อนที่จะก่อเหตุงัดตู้บริจาค ของวัดต่างๆ นายชาติจะกราบไหว้ขอขมาต่อพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่สถานที่นั้นๆ ก่อนที่จะก่อเหตุงัดตู้บริจาคทุกครั้ง
   จากการสืบสวนขยายผลนายชาติให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาคของวัด ต่างในพื้นที่จ.นนทบุรีหลายวัด วันที่ 5 เม.ย. 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. ก่อเหตุที่วัดปราสาท เขตท้องที่ สภ.บางศรีเมือง ได้เงิน ประมาณ 8,000 บาท ,วันที่ 11 เม.ย. 2564 เวลาประมาณ 17.00 น. ก่อเหตุที่วัดใหม่ทางหลวง เขตท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี (ไม่ได้ เงิน) ,วันที่ 11 เม.ย. 2564 เวลาประมาณ 11.30 น. ก่อเหตุที่วัดโชติการาม เขตท้องที่ สภ.บางศรีเมือง ได้เงิน ประมาณ 3,000 บาท ,วันที่ 25 เม.ย. 2564 เวลาประมาณ 08.20 น. ก่อเหตุที่วัดท่าเกวียน เขตท้องที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ได้เงิน ประมาณ 800 บาท

  
  นายคำรณ บางจริง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองข่อย เเละชาวบ้าน กล่าวว่าขอขอบคุณรองผู้บัญชาการ เเละรองผู้การเก่ง หรือโชติวัฒิ เหลืองวิลัย ถ้ามีอะไรเเถวนี้เรียกท่านมาประชาชนไม่เคยผิดหวัง ซึ่งเมื่อวานพึ่งมีการนั่งประชุมกันก่อน ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง จับคนร้ายได้ทันที ซึ่งทางชาวบ้านเเละตนจึงอยากขอขอบคุณมาก ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันได้อย่างรวดเร็ว เเละไม่นิ่งนอนใจ เพราะชาวบ้านเป็นกังวลอย่างมากกลัวจะจับคนร้ายไม่ได้ เเละกลัวเป็นอันตรายเพราะคนในชุมชนอาศัยอยู่ใกล้วัดหลายคนนายก เเละชาวบ้าน กล่าวว่า ขอขอบคุณรองผู้บัญชาการ เเละรองผู้การเก่ง หรือโชติวัฒิ เหลืองวิลัย ถ้ามีอะไรเเถวนี้เรียกท่านมาประชาชนไม่เคยผิดหวัง ซึ่งเมื่อวานพึ่งมีการนั่งประชุมกันก่อน ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง จับคนร้ายได้ทันที ซึ่งทางชาวบ้านเเละตนจึงอยากขอขอบคุณมาก ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันได้อย่างรวดเร็ว เเละไม่นิ่งนอนใจ เพราะชาวบ้านเป็นกังวลอย่างมากกลัวจะจับคนร้ายไม่ได้ เเละกลัวเป็นอันตรายเพราะคนในชุมชนอาศัยอยู่ใกล้วัดหลายคน
   พระครูใบฎีกาอำนาจ ปิยธัมโม เจ้าอาวาสวัดท่าเกวียนเจ้าอาวาส กล่าวว่า อยากขอขอบคุณทางผู้บังคับบัญชาการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เเละนายกอบต. ที่ร่วมด้วยช่วยเหลือกันจับคนร้ายมาดำเนินคดี จึงอยากฝากข้อคิดไว้ว่าถ้าตัดสินใจผิดจะเสียเวลาไปอีกหลาย10ปี
    นายชาติ (ผู้ต้องหา)กล่าว่าวันนั้นเอาเหล็กงัดตู้ได้เงินสดไปจำนวน 800 บาท ส่วนใหญ่จะเป็นเเบงค์ 100 เเละเเบงค์ 20 ตอน ซึ่งขณะที่เข้ามาไม่ได้สังเกตุว่ามีกล้องวงจรปิด รับสารภาพว่าที่ทำไปเพราะไม่มีเงิน เเละนำเงินที่ขโมยมาเล่นการพนันจนหมดหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายชาติขึ้นรถกลับเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบช.ภ.1กล่าวว่าได้จับตัวคนร้ายที่ตระเวนขโมยเงินในตู้บริจาคตามวัดต่างๆหลายเเห่ง เเละเป็นที่กระทบกระเทือนต่อชาวบ้านเเละประชาชน ซึ่งภายในวันเดียวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์สามารถจับคนร้ายได้ ทางของกลางทางเราได้กางเกงที่ผู้ต้องหาใส่วันเดียวกับวันที่เกิดเหตุ เเละกระเป๋าเคียง1ใบ ซึ่งคนร้ายรับสารภาพว่าเศรษฐกิจไม่ดีจึงขโมย เเต่ทำถึง 4 ครั้ง ซึ่งเป็นเงินบริจาคของชาวบ้านที่มาทำบุญเพียงเล็กๆน้อยๆ การที่ขโมยของเป็นความผิดอยูาเเล้ว เเต่มาขโมยภายในวัดก็จะมีความผิดเพิ่มเติมขึ้นไปอีกคือ เป็นการลักทรัพย์ในที่บูชา ในที่สาธารณะ
ภาพ-ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน
ผู้สื่อข่าวนนทบุรี

        

        Loading...