โควิดทำผู้รับเหมาจนตรอก เป็นหนี้ ย่องขโมยหมากเอาไปขายต่อ ตร.แกะรอยวงจรปิดตามรวบ

บุรีรัมย์-หนุ่มอดีตผู้รับเหมาวัย 38 ปี โดนพิษโควิด กลับมาอยู่บ้านหาเร่ขายหมากให้คนแก่ตามหมู่บ้าน เงินช็อตเพิ่มติดหนี้ค่าหมากแม่ค้าส่ง ตัดสินใจชวนเมียมาขโมยหมากกลางตลาดไปขาย แล้วเอาเงินมาใช้หนี้แม่ค้าหมาก ขณะ ผกก.เผยโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน ได้ผล อ่านวงจรปิด ตามรวบได้ทันที ส่วนเมียเผ่นหนี

วันที่ 30 เม.ย.64 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ นำตัวนายศักดิ์นรินทร์ น้อยนาม อายุ 38 ปี ที่อยู่ 34 ม.12 ต.หนองไผ่ อ.แก้งค้อ จ.ชัยภูมิ พร้อมของกลาง เป็นหมากสดประมาณ 3,000 ลูก และจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA wave สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1 กภ 882 บุรีรัมย์ มาสอบสวน

หลังจากตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในตลาดสดเทศบาลกระสัง และอีกหลายจุด ใน อ.กระสัง พบว่านายศักดิ์รินทร์ เป็นคนขโมยหมากในแผงขายหมากของนางละเอียด บุญครอง อายุ 63 ปี อยู่เลขที่ 106 หมู่ 11 ต.กระสัง อ.กระสัง เมื่อเวลา 19.00 น.และเวลา 21.00 น.(28 เม.ย.)ที่ผ่านมา

โดยนายศักดิ์รินทร์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างที่กรุงเทพฯ หลังจากโรคโควิด-19 ระบาด ไม่มีงานทำ จึงหาทางไปรับเหมาต่างจังหวัด กระทั่งมาได้งานรับเหมาที่ จ.สุรินทร์ และมารู้จักคบหากับภรรยาที่ อ.กระสัง

พอโรคโควิด ระบาดใน ระลอก 3 ทำให้งานรับเหมาที่จังหวัดสุรินทร์ ไม่มีใครจ้าง จึงกลับไปอยู่บ้านภรรยาที่ ต.ลำดวน อ.กระสัง และหันมาประกอบอาชีพขายหมากเร่ไปตามหมู่บ้าน ด้วยการไปรับหมากมาจากนางละเอียด ผู้เสียหายไปขาย

จากนั้นเงินหมุนไม่ทัน เพราะมีรายจ่ายมาก จึงค้างค่าหมากกับนางละเอียด เป็นเงิน 1,000 บาท แต่ยิ่งขายยิ่งหมุนไม่ทัน ไม่มีเงินไปใช้หนี้ยายขายหมาก จนไม่กล้าเข้าร้าน บางครั้งต้องไปรับหมากจาก จ.สุรินทร์ มาขาย

แต่ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวยังมีเท่าเดิม ไม่มีเงินใช้จ่าย และไม่มีเงินไปใช้หนี้ค่าหมาก จึงพาภรรยาขับรถจากบ้านมาตลาดสด เพื่อมาขโมยหมากของนางละเอียด ที่แผง เพราะตนรู้ดีว่าไม่ได้ล็อกกุญแจ

โดยได้เข้าไปขโมย 2 รอบ เอาออกมาให้ภรรยาเฝ้าไว้ด้านนอก แล้วกลับไปเอาอีก ก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน เพื่อเอาหมากไปแบ่งขายเป็นถุงๆละ 4 ลูกซึ่งจะเอาไปขายในราคาถุงละ 20 บาท

เมื่อขายพอได้เงิน ได้เอามาใช้หนี้ยาย 600 บาท เพราะเกรงใจที่เป็นหนี้ กะว่าจะเอามาใช้หนี้ให้หมด ภายใน 1-2 วัน เพราะหมากที่ขโมยไปมีราคากว่า 20,000 บาท แต่มาถูกจับก่อน

ส่วนนางมยุรี ละไมล์ อายุ 42 ปี ภรรยาของตนที่ไปขโมยด้วยกันพอทราบเรื่อง ได้หนีออกจากบ้านไปโดยไม่ทราบว่าไปไหน สาเหตุที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ได้ตั้งใจขโมย จึงอยากจะฝากขอโทษยาย ที่เข้าไปขโมยหมาก และยังติดค้างค่าหมากอีก 400 บาท

ขณะที่นางละเอียด เจ้าของแผงหมาก เล่าว่า เห็นผู้ต้องหามาซื้อหมากไปขายเป็นประจำ เห็นหน้าตาซื่อๆ เมื่อเงินหมุนไม่ทัน ก็ให้เอาหมากไปขายก่อน แล้วค่อยมาเอาเงินมาคืน แต่ไม่คิดว่าจะมาขโมยกันแบบนี้ มูลค่าที่นายศักดิ์รินทร์ ขโมยไปคิดเป็นเงินประมาณ 20,000 บาท เพราะช่วงนี้หมากราคาแพงลูกละ 5-12 บาท

ด้าน พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก. สภ.กระสัง กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้ง ได้ให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที เพราะเพิ่งติดและตรวจเช็คกล้องวงจรปิดในเขตเทศบาลใหม่ทั้งหมด ตามมาตรการโครงการ” 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน”ของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 ที่ให้นโยบายมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายศักดิ์รินทร์ “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ”ส่วนภรรยานายศักดิ์รินทร์ ซึ่งกำลังหลบหนี ตำรวจจะมีหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวน หากไม่ยอมมาก็จะออกหมายจับต่อไป

ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี ทีมข่าวจ.บุรีรัมย์