ไร้จิตสำนึกกร่างคับฟ้า!! บ่อนไก่ชนเถื่อนเส้นใหญ่จริงๆ นำเชื้อโควิดเข้ามาไม่มีใครกล้าทำอะไร

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 หลังจากที่ได้นำเสนอข่าวสารว่าได้มีนักพนันไก่ชนมาจากพื้นที่ต่างจังหวัดเข้ามาเล่นพนันไก่ชนที่บ่อนเถื่อนสนามชนไก่บริเวณสวนยางพารา(ติดคลองชลประทาน)บ้านเกษตรสมบูรณ์ ต.นากอก อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร หลังจากนั้นทางจังหวัดมุกดาหารได้มีการประชุม รายงานการดำเนินการสอบสวนโรคกรณีมี ผู้ป่วยยืนยันโควิด รายที่ 197-198 ของ จังหวัดปราจีนบุรี ตรวจพบเชื้อได้เดินทางมาเล่นพนันไก่ชนที่เปิดผิดกฎหมายที่ อ.นิคมคำสร้อย และกลับไปตรวจพบเชื้อและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทั้ง 2 ราย ในวันที่ 1 และ 2 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา

ซึ่งผู้ป่วยทั้งสองราย มีประวัติเดินทางมาเล่นพนันที่ สนามชนไก่บริเวณสวนยาพารา (ติดคลองชลประทาน) บ้านเกษตรสมบูรณ์ ต.นากอก อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ สวนยาง เมื่อวันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ที่ผ่านมาและมีผู้เกี่ยวข้องกว่า 50 คน ดำเนินการเก็บสิ่งส่งตรวจแล้ว 47 คน รอผลตรวจภายในวันนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้เร่งสอบสวนโรคให้ครบ และขอให้ เซียนไก่ในจังหวัด ที่เดินทางไป สนามชนไก่ดังกล่าว เมื่อวันพุธที่ 28 เมษายน 2564 ให้รายงานตัวตรวจหาเชื้อโควิด – 19 โดยด่วน และให้ผู้ใกล้ชิดเซียนไก่เฝ้าระวังอาการ พร้อมทั้งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรองรับกลุ่มก้อนใหม่ (Cluster) นี้ด้วย

การกระทำดังกล่าวของเจ้าของบ่อนไก่ชนเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อคำสั่งจังหวัดมุกดาหาร ที่ 1689/2564 สั่ง ณ วันที่ 27 เมษายน 2564 และฝ่าฝืนต่อคำสั่งจังหวัดมุกดาหารที่ 1515/2564 สั่ง ณ วันที่ 15 เมษายน 2564 ข้อ 1.1 ประกอบข้อ 6 วรรคสอง มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่กเิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา เจ้าหน้าที่รัฐยังขาดจิตใต้สามัญสำนึก อวดอ้างบารมีการเป็นเจ้าหน้าที่ไม่มีใครกล้าทำอะไร ใครจะฉิบหายชั่งมัน หารู้ไม่ว่าคนที่เดือดร้อนคือ บุคคลากรทางการแพทย์คุณหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ต้องมารักษาคนป่วย ประชาชนตาดำ ๆ ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค ของพวกเห็นแก่ตัวเพียงไม่กี่คน เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยประละเลย ไม่ใส่ใจเห็นแก่เงินไม่กี่บาท อดอยากกันนักหรืออย่างไร ถึงต้องทำเยื้องนี้ เห็นทีคงต้องย้าย พ่อเมืองและผู้ที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ เพื่อมิให้เป็นเยื้องอย่างต่อไป

ภาพ/ข่าว ไกรสมุทร นามโพธิไทร รายงานจากมุกดาหาร