แพทย์มุสลิมยะลา แจงการงดละหมาดอีฏิ้ลฟิตรีเป็นการป้องกันระยะยาว ระบุหากการระบาดวิกฤตโรงพยาบาลจะไม่มีเตียงรองรับ

นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายแพทย์อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ยะลา นายแพทย์โนรมาน อัฮมัดมูซา รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ยะลาและนายอิสมาแอล หะยีมะนุส ผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ร่วมกันแถลงข่าวถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยการให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมในจังหวัดยะลางดการละหมาด(อีฏิ้ลฟิตรี) ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1442

นายแพทย์ โนรมาน อัฮมัดมูซา แพทย์มุสลิม/รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์ยะลา กล่าวว่า หากการระบาดมีมากขึ้น แน่นอนว่าต้องมีการคัดกรอง(SWOB) มากขึ้น เจ้าหน้าสาธารณสุขที่มีอยู่ต้องจัดมารวมกัน ซึ่งขณะนี้ในโรงพยาบาลยะลาห้องผ่าตัดผู้ป่วยที่มีเหลืออยู่ 60% ก็อาจจะต้องเหลือแค่ 30% เพราะทั้งหมดต้องมาให้บริการโควิด ซึ่งจะกระทบกับโรงพยาบาลแน่นอน อะไรที่ไม่จำเป็นเราจะตัดทันทีเพราะฉะนั้นแทนที่ท่านจะได้รับการบริการช่วงเวลาที่มีปัญหาท่านจะต้องรอก่อนเนื่องจากว่าคนไข้ที่เป็นโควิดหรือคนไข้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงซึ่งทางแพทย์จะต้องรับคนเหล่านี้ในโรงพยาบาลก่อน เพราะเมื่อไหร่ที่ระบาดเข้าขั้นเฟส 3 แล้วอุปกรณ์ทุกอย่างเรามีจำกัด ดังนั้นห้องไอซียูเรามีเต็มที่อยู่ 40 เตียงและหากว่าเต็มแล้ว 40 เตียงโรงพยาบาลจะไม่มีห้องไอซีให้ทำการรักษาก็ต้องส่งผู้ป่วยออกไปยังโรงพยาบาลข้างเคียงซึ่งทางแพทย์จะไม่ทำหากไม่จำเป็นจริงๆเพราะความเสี่ยงจะสูง ตนเองมองว่าแม้ว่าเรายังไม่ได้ละหมาดอีดแต่เรายังละหมาดวันศุกร์ได้และการที่เราจะต้องงดละหมาดวันอีดเพราะเราจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติที่เราอยากได้

ขณะที่ นายอิสมาแอล หะยีมะนุส ผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า แม้จะไม่สามารถละหมาดอีฏิ้ลฟิตรีที่มัสยิดได้ แต่เราก็จะได้ผลบุญอันยิ่งใหญ่ 2 ประการ คือ 1.เราได้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำทางศาสนาและผู้นำที่ปกครองอยู่ และประการที่สองคือเราจะได้ผลบุญในการละหมาดที่บ้านกับครอบครัวแม้มองว่าจำนวนจะน้อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้ยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่ากันเลย ดังนั้นทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลาได้พิจารณาร่วมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาแล้วจึงออกประกาศให้งดละหมาดดังกล่าว

ทางด้าน นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันฮารีรายอของชาวมุสลิมที่กำลังจะมาถึงนี้ เนื่องจากหลายคนจะมีการเคลื่อนไหวคือการเดินทาง ทางจังหวัดยะลาจึงขอความร่วมมือให้พี่น้องไทยมุสลิม งดละหมาดในมัสยิด เนื่องจากในพื้นที่ จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม (10 พ.ค.) จำนวน 126 และได้การดำเนินการปิดสถานที่ 15 หมู่บ้าน เพื่อหยุดการแพร่เชื้อโรคโควิด-19

ภาพ/ข่าว อับดุลหาดี เจ๊ะยอ จ.ยะลา