วิพากษ์การเมืองข่าวชัด “ไทยสร้างไทย สายพันธ์การเมืองใหม่”
1 min readวิพากษ์การเมืองข่าวชัด พ.ค.64
ไทยสร้างไทย สายพันธ์การเมืองใหม่
กว่า 20 ปี คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เดินบนถนนการเมือง มาแต่ครั้ง ไทยรักไทยรุ่งโรจน์สุดๆ แต่การเมืองไทยไร้จริยธรรม มโนธรรมและคุณธรรม มุ่งแต่ทำลายคู่แข่งทางการเมือง ให้มอดไหม้ จนถึงขั้นยุบพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ แต่การเมืองไทยไม่เล่นในเกมส์ ตีกรอบถล่มไทยรักไทย ที่สุดไทยรักไทยแตก มาเป็นพลังประชาชน
ที่คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ มาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนพรรค จนได้เป็นรัฐบาล แต่ต้องมีอันเป็นไปในรูปแบบการเมืองไทย ที่ดีแต่พูด ไร้กติกา ถือพวกมาก ลากไป จนทำลายฝ่ายตรงข้าม จบพรรคพลังประชาชน มาเป็นเพื่อไทยในปัจจุบัน ที่มีจุดอ่อน คือความอ่อนแอในเชิงการเมือง ตลอดจนนักการเมืองผู้ร่วมชะตากรรม ในอดีต ลาออก บางคนไปอาศัยชายคาฝั่งรัฐบาล มีตำแหน่งสูงในรัฐบาล ลืมข้าวหม้อเก่าที่เคยร่วมกินกันมา
คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ คือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งไทยสร้างไทย ซึ่งกำลังวางรากฐานให้มั่นคง โดยผสมผสานคนรุ่นใหม่และเก่า รวมใจเป็นหนึ่ง เพื่อทำงานการเมืองเชิงสร้างสรรค์สังคม ตามอุดมการณ์เดิม ปัจจุบันค่อยๆเป็นรูปร่าง เพราะต้องกลั่นกรองหลายด้าน เพื่อความมั่นคง ตลอดจนวางตัวบุคคลทำหน้าที่แต่ละด้าน ให้เหมาะสมกับไทยสร้างไทย
ไทยสร้างไทย แม้ไม่คุ้นหูในเวลานี้ แต่ต่อไปไม่นาน ไทยสร้างไทย ต้องเป็นที่รู้จักของคนไทยทั้งประเทศ และอาจเป็นพรรคการเมืองระดับแถวหน้าของไทย เพราะคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพการก่อตั้งไทยสร้างไทยนั้น มีความมุ่งหมายให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ที่จับต้องได้ ตามรูปแบบที่ควรจะเป็นนวัตกรรมใหม่ โดยผสมผสานความใหม่และเก่า เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยคนรุ่นเก่าคอยเป็นพี่เลี้ยง แก่คนรุ่นใหม่ในทุกๆเรื่อง ตามแนวทางการเมือง ซึ่งปัจจุบัน
การเมืองมีอคติต่อประชาชนที่คิดต่างอย่างมาก จนขาดความเชื่อมั่นในพฤติกรรม พูดอย่าง ทำอย่าง ตามที่เห็น ทั้งนี้ ไทยสร้างไทย เคยเสนอแนวทางแก้ไขไวรัสแพร่ระบาด เพราะมีประสบการณ์เชิงรุกมากกว่าตั้งรับ แต่รัฐบาลชุดนี้เมินค่า และประเมินผู้ติดเชื้อคงไม่มาก แต่ที่สุดต้องปฏิบัติการในเชิงรุก
เมื่อจนตรอก รัฐนำไปปฏิบัติ ปรากฏว่าได้ผลเกินคาด พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในเวลาไม่กี่วัน มีการสกัดการแพร่ระบาดในวงจำกัด เพราะการป้องกันนั้น หาใช่หน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลเดียวเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกภาคส่วน ต้องร่วมกันป้องกันตน และเพื่อนร่วมชาติทุกคน รัฐต้อง คำนึงถึงสวัสดิภาพของประชาชน ต้องมาก่อนเสมอ
เชื้อไวรัสไม่ใช่เกมส์การเมือง ต้องคอย ต้องรอ การรักษาพยาบาลรอไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้น มองได้ว่ารัฐไม่มีศักยภาพ ในการป้องกันเชื้อไวรัส มิใช่ดีแต่พูด อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่รัฐล้มเหลวในเชิงปฏิบัติ ป้องกันแก้ไข ใช้คนจำนวนมาก ทั้งรู้จริง รู้ไม่จริง ใน สบค. โดยเฉพาะบุคคลที่ไมใช่แพทย์ มีมากกว่าแพทย์เท่าตัว การตัดสินจึงไปลงที่ประชาชน รับผิดเสมอ เมื่อเกิดระบาดในรอบสาม
เชื้อไวรัสโควิดระบาดคราวนี้ เป็นบทเรียนแก่ทุกรัฐบาล ได้จดจำไปอีกนาน โดยเฉพาะวิสัยทัศน์ อย่าคับแคบ จนแก้ไขไม่ได้ เหตุเกิดต้องระดมความคิดทุกภาคส่วน เข้าร่วมแก้ไข มิใช่อวดเก่ง แต่ผู้เดียว เหมือนอย่างที่เป็นมา จนล้มเหลวในทุกส่วน แล้วยังหน้าชื่น ตาบานว่าเป็นผลงานอัปยศที่สุดในรอบปี
ไทยสร้างไทย จึงเป็นพรรคการเมืองใหม่ คือทางเลือกของคนไทยในอนาคต
โปร่ง พญาไม้
Loading…