มอบตัวอีก 3 “แก๊งค์ เบ๊นซ์ คลองโยง” ยิง “บีม ไทรน้อย” เสียชีวิต
1 min readจากกรณี เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 เวลาประมาณ 22.30น. พนักงานสอบสวนสภ.ไทรน้อย ได้รับแจ้งจากทาง รพ.ไทรน้อย ว่า มีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนบาดเจ็บ ญาตินำส่งรักษาตัวที่รพ.ไทรน้อย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่บริเวกลางสะพานสวนตาวุธ ม.12 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งสะพานดังกล่าว เป็นเขตติดต่อระหว่าง สภ.บางเลน จ.นครปฐม กับ พื้นที่ อ.ไทรน้อย
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือนาย ทศพล หรือบีม เมืองที่รัก อายุ 29 ปี หรือ บีม ไทรน้อยอยู่บ้านเลขที่ 3ม.12 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ถูกยิงที่บริเวณหลัง และบริเวณขาทั้งสองข้าง ด้วยอาวุธปืนลูกซอง จำนวนหลายนัด และ อาวุธืนไม่ทราบขนาด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย ได้ทำการสืบสวน สอบสวน จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายเดชา ประทุมสิทธิ์ หรือ เบ๊นซ์ คลองโยง กับพวก รวม 5 คน จึงได้ขออนุมัติ หมายศาลจังหวัดนนทบุรี จนสามารถตามรวบตัวเบ๊นซ์ ขณะหลบไปซ่อนตัวบ้านแฟนสาวที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยกล่าวหาว่า ” ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครอง และ พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทางพล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชระมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วิทยา บวรศิขริน ผกก.สภ.ไทรน้อย พ.ต.ท.อดิศร บุญสนอง รอง ผกก.สส.สภ.ไทรน้อย พร้อมด้วยกำลังชึดสืบสวนออกติดตามตัวพรรคพวกที่ร่วมก่อเหตุกับเบ๊นซ์ คลองโยง มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ชุดสืบสวนจึงออกติดตามกดดัน ไล่ล่าผู้ที่ยังหลบหนี และร่วมก่อเหตุตลอดเรื่อยมา
จนกระทั่ง 16 พ.ค.64 เวลา 16.00 น. ได้มี นายชานนท์ หรือ ต้อม รักการเขียน อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 195 / 2564 ลง 13 ข้อหา ร่วมกับพวกที่หลบหนี ฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต นายศุภชัย หรือ โอ สีดาแก้ว อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 197/2564 ลง 13 พ.ค.64 ในข้อกล่าวหาเดียวกัน และในวันนี้นายอรวรรณ หรือเอ็ม เขียวหวาน อายุ 27 ปี ได้ให้ญาติผู้ใหญ่ พาเดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.วิทยา บวรศิขริน ผกก.สภ.ไทรน้อย โดยได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวน ให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนก่อนพาไปทำการตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. หมายเลขทะเบียน กท 2800677 จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืน ขนาด 11 มม.ไม่มีหมายเลขทะเบียนจำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 11 มม. ซองบรรจุกระสุน 2 ซอง ได้จากบ้านพักของ นายศุภชัย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสี่คนอ้างว่าอาวุธปืนทั้งสองกระบอกนั้น เป็นของฝั่งผู้เสียชีวิต และถูกแย่งชิงไปได้ในวันเกิดเหตุ อีกทั้งยังตรวจยึด รถยนต์กะบะ ที่ใช้เป็นยานพาหนะ ในวันก่อเหตุได้อีกสองคัน ส่วนผู้ก่อเหตุที่ยังคงเหลือ เหลือเพียงคนเดียวคือนายกฤษณ์ อาภาศรี ตำรวจได้ออกหมายจับแแล้ว จะติดตามจับกุมตัวตามหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในวันนี้ เวลา 11.30 น. ได้คุมตัวทั้งหมดไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ
พ.ต.อ.วิทยา ผกก. เปิดเผยว่า เบื้องต้นในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนี ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าให้ความร่วมมือในการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานดีก็ไม่คัดค้านการประกันตัว ขออนุญาตทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้เรียบร้อยก่อน ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกับผู้ที่เข้ามามอบตัว คนที่เข้ามามอบตัวสู้คดีในขบวนการยุติธรรมก็ถือว่าไม่ได้มีเจตนาหลบหนี เพียงแต่เมื่อเกิดเหตุแล้วจากการสอบถามเบื้องต้นส่วนตัวคือตกใจและหนีไปตั้งหลัก พอทราบว่าตำรวจออกหมายจับก็เข้ามามอบตัว เพราะหมายจับคดีพวกนี้มีอายุความ 20 ปี ไม่จำเป็นต้องหนีให้รีบเข้ามามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายเต็มที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เป็นคู่กรณีกับใครแต่เป็นผู้รักษากฎหมาย
สรุปคดีนี้จับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย คนแรกคือนายเบ๊นซ์ จับได้เมื่อ 13 พ.ค. ซึ่งเป็นคู่กรณีเริ่มแรก หลังจากนั้นได้ออกหมายจับฝั่งนี้ไป 5 คน เมื่อวานเข้ามามอบตัว 2 คน คือนายโอและนายต้อม วันนี้ได้เข้ามามอบตัวอีก 1 ราย คือนายเอ็ม ยังคงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 ราย คือนายเบฟ คนนี้คือตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ ลงมือร่วมกันกับผู้ตาย ของกลางที่ยึดได้คืออาวุธปืน ขนาด 11 มม. 2 กระบอก มีทะเบียน 1 กระบอก ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน และขนาด 9 มม. สั้น 1 กระบอก ไม่มีทะเบียน จากการนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าใครอยู่ตรงไหน ทำยังไง คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก คดีนี้เป็นเรื่องของคน 2 กลุ่มทะเลาะกัน เป็นเพื่อนกันมาก่อนแล้วผิดใจกัน เรื่องของการยืมของ และเกิดหยามศักดิ์ศรีกันขึ้น ได้นัดเคลียร์บริเวณสะพานนี้ และมีการยิงกันขึ้น ฝ่ายที่ถูกยิงเสียชีวิตก็มีการพกพาอาวุธปืนไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงในบันทึกสำนวนสอบสวนไปแล้ว สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ยังเหลืออยู่ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการออกหมายจับและจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวนนทบุรี