ชุด ฉก.กระทรวงแรงงาน ตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยงสมุทรสาคร
1 min readเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมและดำเนินคดีต่างด้าวผิดกฎหมาย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเป็นการสนธิกำลังร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการกระทำความผิดของแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่สุ่มเสี่ยงของจังหวัดสมุทรสาคร
โดยได้มีการเข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลเม็ดพลาสติก ต.บางกระเจ้า อ.เมืองสมุทรสาคร พบมีการจ้างแรงงานทั้งหมด 32 คน เป็นคนไทย 7 คน และต่างด้าวสัญชาติเมียนมาอีก 25 คน ซึ่งทุกคนนั้นก็มีพาสปอร์ต และขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนทางสถานประกอบการก็มีการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ในโรงงานด้วยการให้คนงานพักอยู่ในพื้นที่ไม่ให้ออกไปนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนคนนอกก็ไม่ให้เข้ามาภายในรั้วโรงงาน อีกทั้งยังมีการตรวจโควิดให้กับแรงงานต่างด้าว เป็นต้น
จากนั้นได้ลงพื้นที่แคมป์คนงานก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ริมถนนพระราม 2 ต.กาหลง อ.เมืองสมุทรสาคร โดยพบคนงานทำงานอยู่เกือบ 50 คน มีทั้งคนไทย ลาว กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งที่บริเวณงานก่อสร้างนี้ แม้แรงงานจะมีหนังสือขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง มีพาสปอร์ต แต่ก็ยังพบการกระทำความผิดอยู่บ้างคือการเข้ามาทำงานในจังหวัดสมุทรสาครโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันมีคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด แต่ก็ยังนับเป็นโชคดีของจังหวัดสมุทรสาครที่กลุ่มแรงงานที่เคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานนั้น ไม่พบกลุ่มก้อนแรงงานที่มาจากโรงงานในจังหวัดเพชรบุรีที่กำลังพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ในขณะนี้
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับการดูแลกระทรวงแรงงาน ซึ่งจากสถานการณ์ในขณะนี้พบว่ามีแรงงานต่างด้าวที่พยายามจะหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาทางกระทรวงแรงงานได้เปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องได้ขึ้นบัญชีไว้ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 แล้ว แต่ทั้งนี้ก็ยังพบว่ามีบางส่วนที่ไม่ยอมขึ้นทะเบียน และบางส่วนที่พยายามจะลักลอบเข้ามา
ดังนั้นจึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมาให้เป็นชุดเฉพาะกิจของกระทรวงแรงงานเพื่อที่จะมาคอยสนับสนุนการทำงานของพื้นที่ โดยเป็นการสนธิกำลังกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงกรมการปกครองที่จะเข้ามาทำงานบูรณาการร่วมกันในการกำกับดูแลสถานประกอบการและโรงงานต่างๆ ที่มีคนต่างด้าวเข้ามาทำงาน ซึ่งหากพบการกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ในทุกๆ เรื่อง ภายใต้การใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสมเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะขับเคลื่อนการทำธุรกิจภายใต้สภาวะปัจจุบันไปได้ ส่วนจังหวัดสมุทรสาครนั้น นับเป็นหนึ่งในหลายๆ พื้นที่เป้าหมายที่มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน ในขณะเดียวกันก็มีการคาดหวังจากทุกฝ่ายว่า ทางบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ ก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์ในขณะนี้เป็นอย่างดีว่าโควิด-19 ในครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง ถ้าเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมืองจริงก็ต้องไม่รับคนงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานโดยเด็ดขาด
พล.ต.ต.นันทชาติฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินหน้าเข้าตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยงในการนำแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในพื้นที่เป้าหมายนั้น ทางชุดเฉพาะกิจฯ จะดำเนินการทุกวัน โดยวันนี้เป็นการทำงานวันแรกของชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมและดำเนินคดีต่างด้าวผิดกฎหมาย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) นำร่องที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบไปยังจังหวัดอื่นๆ ด้วย ซึ่งจังหวัดไหนที่มีแนวโน้มของกลุ่มคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองมาทำงานโดยผิดกฎหมายก็จะลงไปปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ที่กระทรวงแรงงานได้ให้ไว้ ส่วนที่จังหวัดสมุทรสาครในเรื่องของการกระทำความผิดหลังจากการเข้าตรวจวันแรกนี้ ก็พบบ้างเล็กๆ น้อย ๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทั้งนี้เฉพาะที่จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ได้รับรายงานทราบว่ามีการดำเนินการจัดชุดเฉพาะกิจของจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2564 มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานโดยผิดกฎหมายในลักษณะต่างๆ ไปแล้ว 92 ราย ซึ่งการเข้าตรวจจับแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายนั้น ไม่ใช่แค่จับแล้วจบ แต่จะต้องสืบหาไปจนถึงต้นตอของผู้ที่นำพาเข้ามาด้วย ดังนั้นจึงได้มีการวางงานและหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อร่วมมือกันทำงานเป็นอย่างดี เพราะต้องเอาให้ถึงต้นตอผู้ที่นำพามาซึ่งการกระทำความผิดอย่างถึงที่สุด
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการเข้าตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครวันแรกนี้ ก็ยังไม่พบกลุ่มก้อนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีออกมาจากโรงงานในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก ทั้งนี้ก็อยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า หากใครที่พบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติก็ขอให้รีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ฯ ได้รับทราบทันที เพื่อเป็นการร่วมกันป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 อันเนื่องมาจากแรงงานข้ามชาติ
ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร