กองกำลังเทพสตรี เข้มเฝ้าระวังแนวชายแดน เตรียมรับมาเลเซีย ประกาศล็อคดาวน์ทั่วประเทศ 14 วัน เริ่ม 1 มิ.ย.นี้
1 min readจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ประเทศมาเลเซีย ที่เมื่อวานนี้มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 8 พันคน ประกอบกับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่มีความรุนแรงที่อัตราการติดเชื้อสูงและรวดเร็ว ทำให้มาเลเซียเตรียมประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1-14 มิ.ย. 64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศ ขณะที่ชายแดนไทย ด้าน จ.ยะลา กองกำลังเทพสตรี ประสานกำลัง ทหาร ตำรวจตระเวณชายแดนจากชุดเฝ้าตรวจชายแดน ลาดตระเวนเฝ้าระวังชายแดนไทย-มาเลเซีย อย่างเข้มงวด
โดยวันนี้ (29 พ.ค.2564) พลตรี ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ได้ลงตรวจเยี่ยมเน้นย้ำการทำงานชุดเฝ้าตรวจชายแดน กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 4401 ต.บาละ อ.กาบัง ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4402 ต.ปะแต อ.ยะหา ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4403 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา และ ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4404 บ้านดินเสมอ ต.คีรีเขต อ.ธารโต ซึ่งเป็นจุดตรวจร่วมไทย-มาเลเซีย ที่มีฐานปฏิบัติการตั้งอยู่ร่วมกับทหารมาเลเซีย
โดยผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ได้เน้นย้ำการปฏิบัติของชุดเฝ้าตรวจแนวชายแดน ให้เข้มงวดลาดตระเวน จัดระเบียบพื้นที่ชายแดน ย้ำดูแลพื้นที่ชายแดนพร้อมสนับสนุนงานมั่นคงดูแลความปลอดภัยพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องไม่ประมาท มีความพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา นอกจากนี้ต้องประสานการทำงานกับ กำลังป้องกันชายแดน ทหารพราน ที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งพัฒนาสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะไปเยี่ยมฐานปฏิบัติการทหารมาเลเซีย พร้อมนำหน้ากากอนามัย สเปรย์ เจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบเพื่อเป็นขวัญกำลังใจสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 และ 4406 ต.เบตง จ.ยะลา ตามลำดับ
พลตรีศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า หลังทราบข่าวการเตรียมล๊อคดาวน์ทั้งประเทศของมาเลเซีย พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้มาตรวจเยี่ยมเน้นย้ำ กำลังป้องกันแนวชายแดน เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ ป้องกันสกัดกั้นตามแนวชายแดน
ทั้งนี้ การเฝ้าตรวจชายแดนไทย-มาเลเซีย อยู่ในความดูแลของกองกำลังเทพสตรี มีทั้งกำลังทหาร และ กำลังของตำรวจตระเวณชายแดน ซึ่งมีทั้งหมด 30 ชุดเฝ้าตรวจในพื้นที่ภาคใต้ โดยพื้นที่ชายแดนฝั่ง จ.ยะลา แม้จะพบการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองน้อย แต่มักมีชาวบ้านเดินทางข้ามไป เพื่อหาของป่า ยังฝั่งมาเลเซียอยู่บ่อยครั้ง จึงต้องทำความเข้าใจกับผู้ท้องถิ่น ประชาชน เพื่อแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้ข้ามไปหาของป่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างหนัก อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่จะไปพบปะหรือสัมผัสกับเชื้อกลับมาได้ ประกอบกับจะมีการล๊อคดาวน์ทั้งประเทศในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ อาจทำให้มีผู้แอบลับลอบข้ามกลับมาผ่านช่องทางธรรมชาติมากขึ้น จึงต้องมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาพ/ข่าว อับดุลหาดี เจ๊ะยอ จ.ยะลา