รถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งชนท้ายรถคันอื่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
1 min readเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคัน บนถนนเศรษฐกิจ 1 ฝั่งขาออกมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 13 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงประสานให้ ร.ต.อ.เกียรติพล น้อยพิทักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลกระทุ่มแบน หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไปที่เกิดเหตุ
โดยบริเวณดังกล่าวพบผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 2 คน คนแรกเป็นชายนอนหงายหายใจรวยรินอยู่บนฟุตบาท ใกล้ๆกับรถยนต์กระบะยี่ห้อ Toyota Hilux Mighty-X สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน บท 5269 ราชบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ได้พยายามช่วยฟื้นคืนชีพให้แต่ไม่เป็นผล ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลง ณ ตรงจุดนั้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายวินิต เมืองเขียว อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายของใกล้กับที่เกิดเหตุ สภาพศพถูกชนจนร่างกายบอบช้ำอย่างหนักจึงทำให้เสียชีวิต ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน คือ คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิไททัน สีขาวติดคอก หมายเลขทะเบียน 1ฒฎ 5388 กรุงเทพมหานคร ที่สภาพหน้ารถพังยับเยิน โดยผู้บาดเจ็บนั่งอยู่ภายในมีอาการคล้ายหืดหอบ หน้ามืด หายใจถี่รัว หมดเรี่ยวแรง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลฯ ทราบชื่อต่อมาคือนายสมรภูมิ มหาสาโร อายุ 34 ปี เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา
จากการสอบถามผู้ที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุไม่มีใครทันเห็นเหตุการณ์ขณะรถชนกัน แต่เบื้องต้นจากสภาพของรถยนต์แต่ละคันที่ถูกชนแล้ว คาดว่ารถยนต์กระบะมิสซูบิชิไททัน ที่มีนายสมรภูมิ เป็นคนขับนั้นได้ขับรถมาตามทางปกติแล้วรถเกิดเสียหลักหรือคนขับอาจจะเกิดอาการของโรคประจำตัวกำเริบ (จากลักษณะอาการที่พบ) ทำให้ขาดการควบคุมร่างกาย รถจึงพุ่งไปเฉี่ยวชนท้ายรถยนต์อีกคันที่ขับบนถนนก่อน จากนั้นก็พุ่งไปชนรถยนต์กระบะ Toyota Hilux Mighty-X ที่มีตู้ใส่สิ่งของจอดอยู่ข้างทาง จนทำให้นายวินิต ซึ่งเป็นพ่อค้าขายของที่ได้เดินกลับมาหลังรถเพื่อจะขนของไปตั้งวางแผงขายนั้น ถูกรถยนต์กระบะสีขาวชนร่างจนกระเด็นไปตกบนฟุตบาธแล้วเสียชีวิตลง นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีรถยนต์อีก 2 คัน ถูกเฉี่ยวชนท้ายเล็กน้อยอีกด้วย
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้นำรถทั้งสองคันไปตรวจหาร่องรอยของการเฉี่ยวชน และจะได้เรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงญาติของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ ประกอบกับหาภาพจากกล้องวงจรปิดบนท้องถนน เพื่อสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่ชัดเจนต่อไป
ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร