หลานชายโหด ฆ่าลุงโบกปูน ฉุนทวงเงิน 3 หมื่นไม่ได้
1 min read เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ พิภาค ม่วงช้าง รอง.สว.(สอบสวน) สภ. เมือง สระบุรี รับแจ้งจาก นาง ลำเพียร พรหมเมืองเก่า อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ 76 ม. 9 .ต. หนองปลาไหล อ. เมือง สระบุรี ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยมาตรวจสอบที่บ้านของลูกชายหน่อยซึ่งอยู่ติดกัน หลังจากที่ตนได้เข้าไปในบ้านของลูกชายซึ่งตอนนี้ตัวลูกชายตนเองก็ไม่อยู่บ้านหลายวัน โดยตนเองได้เข้าไปดูในห้องนอนลูกชายพบกองปูนคล้ายคนถูกโบกไว้ข้างเตียงในบ้าน และยังมีกลิ่นเหม็นคล้ายซากคนตายโปรยพุ่งออกมาในบ้านไม่รู้ว่าเป็นใครหรือชากอะไร
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.เมืองสระบุรี พร้อมชุดสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างรัตนตรัยสระบุรี มาที่เกิดเหตุดังกล่าว ที่ด้านหน้าบ้านพบชาวบ้านต่างให้ความสนใจ มารอดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้กึ่งปูนสร้างเป็นร้านค้า รับจ้างติดตั้งอลูมิเนียมติดกระจก ภายในร้านมีกระจกแผ่นอลูมิเนียมวางกองในร้านเต็มไปหมด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบภายในห้องนอนในร้าน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน พบ ปูนขาวโบกลัษณะคล้ายโบกทับคนนอนไว้กับพื้นข้างกำแพงในห้อง โดยมีกลิ่นเหม็นฟุ้งเต็มห้อง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันสื่อมวลชนเอาไว้เพื่อที่ไม่ให้เข้าไปด้านใน พร้อมให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างรัตนตรัยสระบุรี ได้ทำการนำฆ้อนปอนเข้าไปทุบปูนออก พบ ศพเป็นชาย ทราบชื่อภายหลัง นาย ไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า อายุ 55 ปี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 เดือน สภาพ เน่าเปื่อย ผู้ตายไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงยีนส์ขายาว เข็มขัดหนัง 1 เส้น จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำศพส่งตรวจที่ โรงพยาบาล มศว.บ้านนาองค์รักษ์ จ.นครนายกต่อไป เพื่อตรวจสอบตายสาเหตุการตายแน่ชัดใดต่อไป
ด้าน นาง ลำเพียร พรหมเมืองเก่า อายุ 74 ปี เล่าว่าบ้านดังกล่าวนั้นเป็นบ้านของลูกชายตน ซึ่งสร้างเป็นร้านค้าไว้รับเหมางานกระจกอลูมิเนียมทั่วไป โดยลูกชายตนชื่อ นาย ไพโรจน์ อายุ 55 ปี อยู่กินกับภรรยาใหม่ ชื่อ นาง เพ็ญ อายุ 40-50 ปี แต่ตัวภรรยานั้นจะไปๆมาที่บ้านนี้ นาง ลำเพียร เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังต่อว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณ ช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย ที่ผ่านมาตนทราบว่าลูกชายตนไม่อยู่บ้านก็เลยไม่ได้สนใจนึกว่าไปรับเหมางานนอกบ้านไม่กลับเป็นเรื่องธรรมดางานของลูกชาย หลังจากนั้นไม่กี่วัน ได้มี นาง เพ็ญ ภรรยา ของลูกชายได้เดินทางมาหาตนที่บ้านพร้อมมานั่งคุยกับตนปรับทุกข์ว่า สามี คือ นายไพโรจน์ นั้นทราบข่าวว่าไปเที่ยวเมืองลาว และคิดว่ากลับไปหาเมียที่อยู่เมืองลาวด้วย แต่ตนเองไม่ได้สนใจมาก จนนางเพ็ญก็เดินทางกลับไปที่บ้านเขา ที่ อ.หนองแค
นาง ลำเพียร เล่าต่อไปว่าช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ ตนเองเห็นว่าบ้านของลูกชายนั้น อยู่บ้างไม่อยู่บ้าง ก็เลยอยากให้หลานเขยกับหลานสาวมาอยู่แทนบ้านจะได้ไม่สกปรก จนช่วงบ่ายโมง วันที่ 6 มิย. ตนกับลูกชายอีกคนมาเปิดประตูดูในห้องดังกล่าว พร้อมเข้าไปในห้องตนได้กลิ่นเหม็นในห้องคล้ายซากสัตว์ และเห็นปูนมาโบกไม้กับพื้นห้องมองคล้ายโบกทับคน แต่วันนั้นยังไม่สนใจ จนกระทั่ง มาถึงวันนี้ ตนกับหลานชายสงสัยจึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตำรวจ มาที่บ้านดังกล่าวจึงทราบว่ามีลูกชายตนเองถูกฆ่าโบกปูนไว้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวคนร้าย
ด้าน นาย คงฤทธิ์ หวาดด้วงดี อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหลานเขย นาง ลำเพียร เล่าว่าช่วงเช้าตนเองก็ได้เข้ามาในบ้านดังกล่าวที่เกิดเหตุ เพราะว่า ทาง ยาย คือ ยายเพียร จะให้ตนมาอยู่ในบ้านแทนพ่อตา ตน คือ นาย ไพโรจน์ เพราะว่ายายเห็นว่าไม่ค่อยมีคนมาอยู่นอนเกรงบ้านจะสกปรก ตนจึงได้มาเพื่อที่จะทำความสะอาดให้ใหม่ จนกระทั่งตนและยายพร้อมอาได้เข้ามาในห้องนอนพบปูนโบกทับคล้ายคนและมีกลิ่นเหม็นจากนั้นยายก็ไปแจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน
ส่วนในเวลาต่อมาไม่นานทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี ได้ออกหาข่าวและกดดันผู้ต้องหาในพื้นที่ที่น่าสงสัยกระทั่งได้เชิญตัว นาย อนุภาพ กัญญา อายุ 30 ปี ซึ่ง เป็นหลานชายของผู้ตายมาเค้นสอบปากคำ จนกระทั่งให้การรับสารภาพในเบื้องต้นว่าตนเองเป็นคนฆ่าลุงของตัวเองเพราะว่าที่ผ่านมาผู้ตายไม่จ่ายค่าแรงที่ช่วยทำงานติดตั้งกระจกรวมเงิน เกือบ 3 หมื่น บาท ที่ค้างไว้ โดยเข้ามาลงมือฆ่า ผู้ตายใน
โดยตนเองเดินเข้ามาหาผู้ตายในห้องนอนจากนั้นได้ทวงค่าแรงแต่ผู้ตายไม่ยอมให้ ตนจึงโมโหใช้ด้ามจอบข้างห้องทุบใบหน้าจนเสียชีวิต โดยตนทำเพียงคนเดียว หลังจากนั้นตนเองก็ออกไปหาชื้อปูนขาวมาโบกร่างทับไว้ข้างห้องของผู้ตาย จากนั้นก็ทำทีไม่รู้เรื่องจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ