สระบุรี จัดพิธีมอบ บัตรประจำตัวประชาชน ให้แก่ นางสาวสุภาพร วรจักร ผู้ได้รับสัญชาติไทย
1 min readนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน มอบบัตรประชาชนให้ผู้ได้รับสัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 (และฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2551 โดยมี ว่าที่เรือตรี ศรัณยวัชร พูลสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองสระบุรี กล่าวรายงานผลการปฏิบัติงานตามคำกราบบังคมทูลขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการขอสัญชาติไทยของ นางสาวสุภาพร วรจัก ผู้ได้รับสัญชาติไทยตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 (และฉับที่ 4 ) พ.ศ.2551 เพื่อรับมอบบัตรประจำตัวประชาชนบุคคลสัญชาติไทย พร้อมด้วย เหล่ากาชาดสระบุรี นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรี เมืองสระบุรี พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล เข้าร่วมในพิธี ตามที่สำนักพระราชวัง ได้มีหนังสือที่ รล 0010/445 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 แจ้งให้จังหวัดสระบุรี ดำเนินการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานและข้อเท็จจริง ของ น.ส. สุภาพร วรจัก กรณีได้ทำหนังสือกราบบังคมทูล สมเด็จพระกนิษฐาธิราชการเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ความว่า ตนเองและมารดาไม่มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน อีกทั้งที่อยู่อาศัยประสบอัคคีภัย เป็นเหตุให้เอกสารหลักฐาน การยืนยันตัวตนสูญหาย นั้น จังหวัดสระบุรี โดยนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มอบหมายให้ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองสระบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากภูมิลำเนาเดิม พบว่า น.ส. สุภาพร วรจัก และนางกลอง วรจัก (มารดา) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ผลัดถิ่น สัญชาติพม่า เชื้อสายไทย ณ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550 และได้ถูกจำหน่าย รายการไปแล้ว เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 เนื่องจากไม่ได้ยืนยันตัวตน ตามระยะเวลา
ที่กำหนดไว้จังหวัดสระบุรีได้ประสานกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอคืนรายการที่ถูกจำหน่าย ดังนี้ 1.น.ส.สุภาพร วรจัก ได้รับบัตรประจำตัวประชาชน และสัญชาติไทย เนื่องจากเป็นบุคคลที่เกิดในราชอาณาจักรไทยสามารถขอสัญชาติไทยได้ตามมาตรา 7 ทวิวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ 2535และ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 2. นางกลอง วรจัก (มารดา) ได้รับบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนแต่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติตามกฎกระทรวง
จากนั้น นางสาวสุภาพร วรจัก กล่าวคำปฏิญาณตนขอเป็นพลเมืองดีต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์จะอุทิศตนและเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติไทย จะเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายรัฐบาล จะประกอบอาชีพโดยสุจริต ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยึดหลักการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง จะช่วยเหลืองานราชการ ช่วยเหลือสังคม จะประพฤติตนเป็นคนดีตามหลักคำสอนของศาสนาและตามแนวทางพระบรมราโชวาท ตลอดไป
ภาพ/ข่าว สมพงษ์ ปานรุ่ง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสระบุรี