“ผึ้งหลวง” เคยให้โชคหลังบ้านในสวน ทำรังเริ่มใหญ่ขึ้นร่วม 2 เมตร หวั่นแตกรังต่อยคนในบ้านข้างบ้านตัดสินใจโร่ขอความช่วยเหลือกู้ภัย
1 min readสระบุรี- ผึ้งหลวงรังใหญ่ 2 เมตร ทำรังอยู่ในสวนนั่งเล่น หวั่นแตกรังไล่ต่อยคนในบ้านโร่ขอความช่วยเหลือจากกู้ภัย
นางสาว อารียา วงษ์ที อายุ 52ปี ได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์กู้ภัยสว่างสระบุรี ให้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยกำจัดรังผึ้งหลวงออกจากบ้านให้หน่อย เกรงว่าผึ้งจะไปต่อยคนในบ้านและข้างบ้าน เพราะว่าทางบ้านเคยโดนต่อยมาแล้ว จากนั้นศูนย์กู้ภัยสว่างจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไป 2 นาย พร้อมชุดป้องกันผึ้งต่อย ไปที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ เลขที่ 99/139 หมู่บ้านธาราฟ้าใส 1 ถ.บันเทิง ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี
เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ พบ น.ส.อารียา ยืนรอหน้าบ้าน จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่เดินไปดูผึ้งที่ต้นไม้สวนหย่อมนั่งเล่นหลังบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้มาถึง ถึงกับตกใจพบฝูงรังผึ้งหลวงเกาะตัวทำรังกับกิ่งต้นไม้ โดยสร้างรังใหญ่มากจากกิ่งต้นไม้ลงมายาวประมาณร่วม 2 เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ทำการใส่ชุดป้องกันผึ้งต่อย พร้อมเอาน้ำมันไปราดกับใบไม้ที่มัดเป็นกำไว้ และจุดไฟรนเพื่อเอาควันไล่ให้ผึ้งหนีแตกรัง ในขณะที่ควันรถนั้นผึ้งได้บินแตกรังและมาเกาะตามตัวเจ้าหน้าที่เพื่อจะต่อสู้ทำร้ายแต่ว่าทำอะไรเจ้าหน้าที่ไม่ได้เพราะมีชุดป้องกันอย่างดี จนเจ้าหน้าที่ไล่ผึ่งไปได้หมดกว่าผึ่งจะหนีรังตัวเองไปก็ร่วมครึ่ง ชั่วโมง
จากนั้นจึงได้ใช้มีดเฉือนรังออกมาเป็นท่อน 3-4 ท่อน เนื่องจากเป็นรังผึ้งหลวงใหญ่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำรังผึ้งออกมาที่หน้าบ้านมอบให้ เจ้าของบ้าน พร้อมให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยช่วยคั้นน้ำผึ้งใส่ขวด เพื่อเอาไว้กินและเป็นยารักษา เพราะน้ำผึ้งมีวิตามินสูงโดยเฉพาะเป็นน้ำผึ้งเดือนห้า
ทางด้าน นางสาว อารียา วงษ์ที เล่าให้ฟังว่า ผึ้งมาทำรังตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ตอนที่ผึ้งเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ก็ยังจุดธูปและบอกว่า ถ้ามาอยู่ร่วมกันดีๆก็ให้อยู่ไปก่อน แต่พอเวลาผ่านไปรังผึ้งเริ่มใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรมากมาย บางครั้งก็มีโดนผึ้งต่อยบ้าง เนื่องจากหัวของสามีตนไปโดนกิ่งไม้ที่ผึ้งทำรังอยู่ก็เลยโดนผึ้งต่อยไป 2-3 ตัว แต่ตนเองยังไม่เคยโดนต่อย มีให้โชคให้ลาภเป็นบางครั้งที่ผึ้งมาอยุ่บ้าน แต่ก็ไม่ได้เยอะมากมาย
ต่อมากิ่งไม้มันยื่นเข้าไปในรั้วเพื่อนบ้านและรังดันใหญ่ขึ้นเรื่องๆ ตนก็กลัวว่าเพื่อนบ้านจะได้รับอันตรายและคนในบ้านด้วยเพราะมีคัวผึ่งเพิ่มขึ้นมาก สุดท้ายเลยตัดสินใจโทรเรียกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมาไล่ไป
ภาพ/ข่าว สมพงษ์ ปานรุ่ง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สระบุรี