วิพากษ์การเมือง ข่าวชัด มิ.ย.64 “ผู้ปกครองที่ดี ต้องคำนึงถึงประชาชนก่อน”
1 min readวิพากษ์การเมือง ข่าวชัด มิ.ย.64
ผู้ปกครองที่ดี ต้องคำนึงถึงประชาชนก่อน
นักปกครองที่ดี ต้องมีวิสัยทัศน์และคุณธรรม มองเห็นประชาชนมาก่อนเสมอ มองการณ์ไกล ไม่เพียงวันนี้และพรุ่งนี้เท่านั้น แต่จะมองข้ามเดือน ข้ามปี พร้อมกับพลังบวกในการสร้างชาติ เดินหน้าไปพร้อมประชาชน
แต่ที่นี่ประเทศไทย ต่างเดินไปคนละทิศละทาง เพราะคำพูดกับพฤติกรรมแตกต่างกันอย่างเด่นชัด ความขัดแย้งเกิดขึ้นในเชิงปฏิบัติ การเมืองเข้าแทรก ทุกรูปแบบ จนเกิดสับสน ทำอย่างไรประชาชนจะได้น้อยที่สุด ส่วนพวกพ้องจะมาก่อน และได้มากกว่าประชาชน อย่างกรณีฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้น กว่า 7 ปีมาแล้ว ประชาชนคนไทยทั้งชาติ ไร้การเติมเต็มจากรัฐบาล ที่อ้างตัวเป็นประชาธิปไตย เกิดกาลุยุค เชื้อไวรัสระบาดเช่นปัจจุบัน รัฐบาลยังต้องให้รอ การฉีดวัคซีน ข้ามวันข้ามเดือน ล้วนแต่เป็นวัคซีนที่มีเงินทอน จึงสามารถฉีดได้ ตามที่รัฐกำหนด การกระทำเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่ารัฐกำลังส่งเสริมนายทุนผลิตยา มีรายรับมากขึ้นกว่าเดิม จากการผลิตและอัตราซื้อขายภายในตลาด การจัดซื้อวัคซีนในรูปรัฐต่อรัฐ ไม่เหมือนอย่างที่พูด ยิ่งรัฐซื้อเองง่ายเป็นสองเท่า เพราะความเชื่อถือในฐานะการเงิน
แต่หากเอกชนซื้อเอง รัฐไม่เหลียวแล รัฐไม่พูดความจริงในการจัดซื้อวัคซีน ประเทศอื่นๆไม่มีปัญหาเหมือนประเทศไทย เราะเขาเอาประชาชนมาก่อน ประชาชนทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐ แต่ที่นี่ประเทศไทย รัฐทำหน้าที่ตรวจสอบประชาชน ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล ไม่มีความสมบูรณ์ตามแบบแผน บีบคั้นประชาชนในทุกด้าน เพื่อให้อยู่ในกรอบที่ตนกำหนดเท่านั้น
ในภาวะวิกฤตเชื้อไวรัสระบาดเช่นนี้ รัฐบาลทำได้แค่เด็กส่งของเท่านั้น รับทบาทนักปกครองที่ควรจะเป็น ทุกอย่างถูกครอบงำให้ล่าช้า จนเกิดวิกฤตห่าใหญ่ เชื้อไวรัสระบาดไปทุกมุมเมือง เพราะเอาการเมืองมาแทรก การแก้ปัญหาชาติและประชาชน เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อเข้ามาจำนวนมาก จนเกิดภาวะเช่นนี้ ก็สมควรปิดประเทศ เศรษฐกิจพัง ดีกว่าประชาชนเจ็บทั้งประเทศ ความไม่เป็นมืออาชีพ ในภาพนักปกครองที่สายตาสั้น ทัศนคติคับแคบ ไร้กลไกทางสมอง ที่คนปกติธรรมดามีกันทั่วไป
ปัญหาคนในชาติได้รับวิบัติภัยเช่นนี้ แต่การทำงานของภาครัฐคือเรือเกลือ ไม่ทันต่อการคุกคามของเชื้อไวรัส ได้แต่พูดย้ำคำเดิมๆทุกวัน ไร้การชี้นำให้ประชาชนป้องกันตนเอง ประชาชนต้องรอการจัดสรร ปันสุขวัคซีน ในขณะที่พวกพ้อง ผู้มีอำนาจทั้งหลายได้ฉีดวัคซีนก่อน ส่วนประชาชนต่อท้ายสุด
นักปกครองที่ดี ส่วนมากเติบโตมาจากรากหญ้า มิใช่มาด้วยระบบพิเศษ และบอกตนเป็นนักปกครองมืออาชีพ แต่วันนี้คนไทยทั้งชาติ ที่มีนักปกครองกำแต่ขี้เถ้าและถ่านเท่านั้น เงินในระบบพัฒนาประเทศ จำนวนมาก ถูกลากไปใช้ ที่ไม่ใช่ในการพัฒนา ได้ประโยชน์เฉพาะในหน่วยงานเดียวเท่านั้น กว่า 7 ปี เงินงบประมาณ ไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้ เม็ดเงินเหล่านั้น เข้าออกกระเป๋าใคร ใครได้ ใครเสีย พวกพ้องผู้มีอำนาจรวย แต่ประชาชนรากหญ้า กัดก้อนเกลือกิน ชนใด หมู่ใดอยู่ห่างไกลความเจริญ ไร้ไฟฟ้า ไร้ถนน แต่รัฐ นำเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ไปสร้างทางรถไฟ ที่เดิมมีอยู่แล้ว แต่ไม่พัฒนา
ในขณะที่บ้านเมืองต้องการความเจริญ ในรูปแบบแบ่งชนชั้น ที่ปรากฏอยู่ ในด้านสวัสดิการรักษาสุขภาพ คนไทยประชาชนชั้นสาม ต้องย่ำอยู่กับที่ ส่วนพวกพ้องผู้มีอำนาจ อยู่อีกระดับชั้น จะเห็นได้ จากการไม่เข้าคิวต่อแถว รับการฉีดวัคซีน ซึ่งปรากฏเห็นได้ทุกจุด สุดท้ายประชาชนก็ได้ฉีดน้ำเกลือ นี่คือรัฐสวัสดิการ ที่แยบยลของการเมือง ที่เข้ามา ในปัจจุบัน ควรหมดเวลาของรัฐบาลแล้ว เพราะอยู่นาน ยังไม่รู้จะเกิดวิกฤตอะไรอีก ในอนาคต แค่นี้ก็เพียงพอ สำหรับประชาชนในประเทศนี้ ที่ติดกับดัก เชื้อไวรัส หากอยากหายเร็ว ต้องใช้เงินซื้อบริการเอง เป็นดีที่สุด หากรอรัฐสวัสดิการ ฉีดวัคซีนฟรี คงชาติหน้า เพราะเถียงกันไม่เสร็จ
การเป็นนักปกครองที่ดี ต้องมองไปที่ปัญหาอันดับแรก แก้ไขอย่างมีสติ ไม่ใช่อารมณ์เป็นปฐม ที่ผู้นำไทยมักแสดงให้เห็น ความไม่สำคัญของประชาชน ส่วนที่ทำไปนั้น จำใจทำเพื่อความอยู่รอดบนอำนาจ และลุ่มหลงคำเยินยอ จอมปลอม ที่แฝงแดงด้วยความสอพลอทั้งนั้น
โปร่ง พญาไม้
Loading…