พ่อเฒ่า 73 แก้เชือกผูกควายวูบล้มก่อนโดนควายเดินวนเหยียบซ้ำจมโคลน
1 min readชาวบ้านเผยอีการ้องลั่นกลางหมู่บ้าน เป็นลางบอกเหตุ ตื่นเช้ามีชาวบ้านออกไปไถนาพบศพพ่อเฒ่า 73 นอนจมโคลนตมใต้ต้นไม้ แถมเชือกผูกควายพันขาตำรวจคาดโรคประจำตัวกำเริบ ขณะก้มแก้มัดเชือกจะนำควายเข้าคอก แต่วูบหมดสติล้มลง แถมควายเดินเหยียบย่ำร่างจมโคลนตมเพราะมีฝนตกทั้งคืน
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. ร.ต.อ.ชวนัย มารศรี รอง สว.สอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตใต้ต้นไม้กลางทุ่งนา บ้านผ่านศึก 1 หมู่ 3 ต.บ้านตาด จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และ อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุอยู่ใต้ต้นมะค่า ห่างจากกระท่อมนา 500 เมตร พบควายตัวเมียอายุ 3 ปี ถูกเชือกผูกติดต้นมะค่า ที่พื้นพบศพนายโสดา ผ่องปัญญา อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 3 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าของควาย สภาพนองหงายร่างจมโคลนตม ข้อเท้าขวามีเชือกไนล่อนสีแดง ที่ล่ามควายพันกับต้นมะค่า ตามร่างกายเปื้อนดินโคลนจากการเหยียบย่ำของควาย เจ้าหน้าที่ได้นำร่างออกมาล้าง พบสวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงวอร์มสีดำ จากชันสูตร พบศีรษะและตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ คาดว่าเกิดจากควายเดินเหยียบย่ำ เสียชีวิตมาประมาณ 10-12 ชม.
จากการสอบสวนนายธมาตร ลีสี อายุ 56 ปี ผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ตนและผู้ตายมีที่นาอยู่ติดกัน ผู้ตายอาศัยอยู่กระท่อมนาและเลี้ยงควาย 3 ตัว มาประมาณ 1 ปี ตัวที่ผูกใต้ต้นมะค่าเป็นตัวเมีย อายุ 3 ปี เมื่อเช้านี้ตนได้ออกมาไถนาตามปกติ ได้สังเกตเห็นควายของผู้ตายผูกอยู่ใต้ต้นมะค่า และเดินวนตั้งแต่บ่ายวานนี้ รู้สึกผิดสังเกตเพราะไม่เห็นผู้ตาย จึงได้เดินไปดูใกล้ๆ ก็เห็นมีคนนอนอยู่จมโคลนตม ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะใบหน้าเปื้อนโคลน แต่ไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตหรือยัง จึงเรียกเพื่อนบ้านที่ไถนาอยู่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุมาช่วยดู จึงโทรแจ้งกำนัน จึงรู้ว่าเป็นนายโสดา ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ผู้ตายก็เคยถูกควายอีกตัวขวิดจนได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาล และตัดสินใจขายควายตัวนั้นไป และมาปีนี้ก็มาเกิดเหตุจนเสียชีวิต
น.ส.อุบลรัตน์ หล้าสวย อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านบอกว่า ผู้ตายมีภรรยาแต่เสียชีวิตไปประมาณ 5 ปี มีลูก 2 คน อยู่ต่างประเทศและบวชเป็นพระกำลังออกธุดงค์ ก่อนพบศพได้มีลาง เมื่อเย็นวานนี้ มีอีกามาเกาะที่รั้วบ้าน แล้วร้องเสียงดัง ตนก็บ่นให้อีกาว่า “มึงมาร้องทำไม มึงดีใจอะไรนักหนา” หรือว่ามันดีใจว่าจะมีคนในหมู่บ้านตาย ซึ่งมันเป็นความเชื่อของคน ต่อมาเช้าตรู่วันนี้ อีกาตัวเดิมก็ยังบินวนและมาร้องกลางหมู่บ้าน ห่างจากที่พบศพประมาณ 1 กม. ถ้าอีกาตัวนี้มาร้องก็มักจะมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิต กระทั่งมีชาวบ้านไปพบศพนายโสดา ที่กลางทุ่งนา
ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายอาศัยอยู่กระท่อมนาเลี้ยงควายตามลำพัง และมีโรคประจำตัวคือความดัน แล้วเย็นวานนี้ผู้ตายเดินไปแก้เชือกควายที่ผูกไว้ใต้ต้นมะข่า เพื่อพาควายเข้าคอก ขณะก้มลงแก้มัดเชือกโรคประจำตัวอาจจะกำเริบ ทำให้วูบล้มลงหมดสตินอนอยู่ใต้ต้นมะค่า ไม่มีคนพบเห็น และยังมีฝนตกทั้งคืน ควายซึ่งยังถูกผูกอยู่จึงเดินรอบต้นไม้ไปมา และเหยียบร่างผู้ตายซ้ำ กว่าคนจะมาพบก็เสียชีวิตแล้ว จึงนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุที่แน่ชัด ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป
ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี