สุรินทร์ องคมนตรีเชิญสัญญาบัตรพัดยศ และผ้าไตรถวาย แด่ พระวชิรญาณโสภณ(เยื้อน ขันติพโล) ณ วัดเขา ศาลาอตุละฐานะจาโร
1 min readสุรินทร์ องคมนตรีเชิญสัญญาบัตรพัดยศ และผ้าไตรถวาย แด่ พระวชิรญาณโสภณ(เยื้อน ขันติพโล) ณ วัดเขา ศาลาอตุละฐานะจาโร ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์
วันที่ (11 มิ.ย.64) เวลา 14.00 น.ที่อุโบสถ์ วัดเขาศาลา อตุละฐานะจาโร ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เชิญสัญญาบัตรพัดยศ และผ้าไตรไปถวายแด่พระเทพวชิรญาณโสภน
ซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ พระราชวิสุทธิมุนี เป็น พระเทพวชิรญาณโสภณ โกศลศาสนกิจบริหาร ภาวนาวิธานธุราทรยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสีพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ สถิต ณ วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร จังหวัดสุรินทร์ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 5 รูป
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.2564 ประกาศ ณ วันที่ 7 พ.ค.2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน “พระเทพวชิรญาณโสภณ (เยื้อน ขันติพโล) สิริอายุ 69 ปี พรรษา 49 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ธรรมยุต) และเจ้าอาวาสวัดเขาศาลาอตุลฐานะ จาโร บ้านจรัส ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ มีนามเดิมว่า เยื้อน หฤทัยถาวร เกิดเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2495 ที่บ้านระไซร์ ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ บิดา-มารดา ชื่อ นายมอญและนางฮิต หฤทัยถาวร มีพี่น้อง 9 คนเป็นบุตรคนแรก
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านระไซร์ ต.นาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์มีพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระรัตนากรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ฝ่ายธรรมยุต) และเจ้าอาวาสวัดบูรพาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสถิตยสารคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิมลสีลคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “ขันติพโล” อันมีความหมายเป็นมงคลว่า “ผู้มีความอดทน”เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่ดูลย์ ทดสอบจิตทำความสงบ สามารถปฏิบัติภาวนาได้รวดเร็วมีจิตสงบนิ่ง หลวงปู่ดูลย์จึงได้สนับสนุนให้ปฏิบัติธรรม โดยกล่าวว่า “จิตเข้าสู่โลกุตรธรรมแล้ว ไม่ต้องเรียนหนังสือ ให้ปฏิบัติธรรมต่อไป”
ต่อมา ฝากให้เข้ารับการศึกษาอบรมข้อวัตรปฏิบัติกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2516 อยู่ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานอย่างมุ่งมั่นมุมานะ กาลเวลาล่วงเลยมาจนถึงปี พ.ศ.2536 ร่วมกับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.กกล.สุรนารี (ในขณะนั้น) เป็นผู้ริเริ่ม ผลักดัน และส่งเสริมให้อนุรักษ์และปกป้องผืนป่าผืนใหญ่ดังกล่าว เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีในขณะนั้น มีมติให้กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขณะนั้นประกาศให้บริเวณพื้นที่ป่า เป็นเขตพุทธอุทยาน
สำหรับวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร มีเนื้อที่ครอบคลุมประมาณ 10,865 ไร่ เป็นเขตพุทธอุทยาน ดำเนินโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) สมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้น ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ ผืนป่าดังกล่าวสืบมา
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2535 เป็นเจ้าคณะตำบลสนม พ.ศ.2539 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2544 เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร พ.ศ.2545 เป็นเจ้าคณะตำบลระแงง (ธรรมยุต) พ.ศ.2553 เจ้าคณะอำเภอศีขรภูมิ (ธรรมยุต)พ.ศ.2555 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ (ธรรมยุต) ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2523 ได้รับแต่งตั้งจากพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) ให้ดำรงตำแหน่งฐานานุกรมที่พระครูใบฎีกา พ.ศ.2531 ได้รับพระราชทานโปรดตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท (วิปัสสนาธุระ) ที่ พระครูภาวนาวิทยาคม (วิ) พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2543 ได้รับพระราชทานเลื่อนชั้นสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยกที่ พระพิศาลศาสนกิจ พ.ศ.2557 ได้รับพระราชทานโปรดเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระราชวิสุทธิมุนี ล่าสุด พ.ศ.2564 ได้รับพระราชทานโปรดเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระเทพวชิรญาณโสภณ