ถึงเวลา!! ควรเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์และที่ประดิษฐานเทวรูปพระนารายณ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองตะกั่วป่าให้สง่างาม

เมื่อวันที่ 26 มิย.64 ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงารายงานว่า ขณะนี้ได้มีเสียงสะท้อนของประชาชนทั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านมา รวมทั้งนักท่องเที่ยวบริเวณสำนักงานเทศบาลเมืองตะกั่วป่า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีแล้วเมื่อเห็นอุทยานพระนารายณ์ สถานที่ประดิษฐานองค์เทวรูปพระนารายณ์ และเทพบริวาร รวมทั้งภูมิทัศน์โดยรอบอยู่ในสภาพชำรุด ทรุดโทรม แทบไม่เหลือความเป็นสถานที่สวยงาม ร่มรื่น สง่างามในอดีตที่มีทั้งต้นไม้สำคัญหลายหลายชนิด ที่เป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจของคนตะกั่วป่า และคนไทยทั้งประเทศที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ไปกราบไหว้ขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย

ปัจจุบันชาวบ้านและนักท่องเที่ยวกลับพบสิ่งที่หดหู่ใจอย่างยิ่งต่อสถานที่สำคัญของอุทยานพระนารายณ์แห่งนี้ แม้ตั้งอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานการทำงานของบุคลากรทุกระดับชั้นของเทศบาลเมืองตะกั่วป่า และภาพของ สนง.เทศบาลฯที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความสวยงามอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่ฝั่งตรงข้าม สนง.ภาพที่เห็นตรงกันข้ามคือการปล่อยทิ้งให้สถานที่อุทยาน ทั้งป้ายอุทยานฯ ป้ายแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ปรักหักพัง พื้นอิฐปูนที่สกปรกเต็มไปด้วบคราบดำ สกปรก ซุ้มที่พักผ่อนของประชาชน ระบบไฟฟ้าแสงสว่างบริเวณโดยรอบ ต้นไม้สวยงาม สถานที่เด็กเล่น ที่สำคัญที่สุดคือสถานที่ประดิษฐานขององค์เทวรูปพระนารายณ์พร้อมเทพบริวาร ที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวตะกั่วป่า ชาวพังงา และชาวไทยทั้งประเทศ ที่ควรปรับปรุงให้มีความสง่างามแก่ผู้พบเห็นและกราบไหว้บูชา

พี่น้องชาวตะกั่วป่าจึงขอเสนอให้ผู้บริหารภายใต้การนำของนายสันติสุข ณ ถลางนายกเทศมนตรีเมืองตะกั่วป่าและคณะผู้บริหารชุดใหม่ ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านได้ช่วยเร่งตั้งงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่อุทยานพระนารายณ์ ภูมิทัศน์โดยรอบ รวมทั้งสถานที่ที่ประดิษฐานขององค์เทวรูปและบริวาร ให้สวยเด่นเป็นสง่าราศีของชาวตะกั่วป่า ชาวพังงาโดยเร็ว ด้วยการให้สถาปนิกออกแบบให้สวยงามในทุกมิติ ตามแนวศิลปวัฒนธรรมและควรมีแนวกั้นรอบขอบถนนป้องกันรถขึ้นไปจนเกิดการชำรุด และเลิกการจัดงาน กิจกรรมที่ทำให้ทั้งสถานที่ชำรุด ให้เป็นกิจกรรมอนุรักษ์งานบุญประเพณีต่างๆ และให้เป็นอุทยานที่พักผ่อนร่มรื่น ที่ออกกำลังกาย และเครื่องเล่นของเด็กๆ พ่อแม่พาลูกหลานเดินเล่น ป้อนข้าวป้อนน้ำลูกๆยามพักปอนหย่อนใจ ณ สถานที่นี้ดีกว่า ควรจัดให้ประชาชนได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นในการปรับปรุงสวนสาธารณะแห่งนี้เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด ถูกใจประชาชนมากที่สุด

หากจะกล่าวถึงองค์เทวรูปพระนารายณ์และเทพบริวารที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจอีกแห่งหนึ่ง ที่มักจะสร้างความสำเร็จให้กับผู้ต้องการขอสิ่งใดท่านก็จะประทานให้สังเกตุได้จากสิ่งของที่ชาวบ้านนำมาแก้บนหลังจากที่ขอไป ซึ่งเทวรูปพระนารายณ์องค์นี้พร้อมกับเทพบริวารอีก 2 องค์ คือพระลักษมณ์และนางสีดาล้วนมีประวัติศาสตร์ที่มาขององค์เทวรูปทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นในพื้นที่เมืองตะกั่วป่า จ.พังงา

จากบันทึกถึงเหตุผลของการสร้างเทวรูปพระนารายณ์พร้อมเทพบริวารองค์จำลองพร้อมกับงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีไว้ตอนหนึ่งที่สำคัญว่า เพื่อเป็นโอกาสใช้ในการเผยแพร่ประวัติศาสตร์ของเมืองตะกั่วป่าที่มีความเกี่ยวข้องกัยเทวรูปอันศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนทั้งชาวไทย ชาวจีน ชาวอินเดียทั่วเมืองตะกั่วป่าและใกล้เคียง ใช้สักการะเคารพบูชาถือเป็นสรณะ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา อันเกิดจากอภินิหารให้ปรากฎแก่ผู้เชื่อถือเคารพอย่างจริงใจ

ในการก่อสร้างได้ประสบความสำเร็จเมื่อต้นปี พ.ศ 2525 พร้อมกับได้อัญเชิญองค์
เทวรูปทั้งหมดขึ้นแท่นประดิษฐาน ณ สวนอุทยานพระนารายณ์ ฝั่งตรงข้ามสำนักงานเทศบาลเมืองตะกั่วป่า สวยเด่นเป็นสง่าคู่บ้านคู่เมืองตลอดมาพร้อมพิธีบวงสรวงอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติทุกปี จนมาถึงทุกวันนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่คอยรักษาเยียวยาจิตใจของคนทั่วทั้งจังหวัดพังงาและทั่วประเทศรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแห่งนี้ยังคงใช้เป็นสถานที่เคารพสักการะอย่างมิเสื่อมคลาย

ภาพ/ข่าว โกอู๋@นักข่าวอาวุโสจังหวัดพังงา/นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป รายงาน