สุรินทร์ หวั่นโควิคระบาด สั่งเฝ้าระวังเข้มงวดโรงเรียนต่างๆ หลังประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา
1 min readสุรินทร์ หวั่นโควิคระบาด สั่งเฝ้าระวังเข้มงวดโรงเรียนต่างๆ หลังประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มแรงงานเดินทางกลับบ้านเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก มีโรงเรียนประถมนับ 10 แห่งแล้ว ต้องปรับเปลี่ยนการสอนจากเรียนที่โรงเรียนมาเรียนที่บ้านแทน
วันที่ 29 มิ.ย. 64 การเฝ้าระวังการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิต 19 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ยังคงเข้มงวด โดยเฉพาะหลังมีการประกาศปิดแคมท์คนงานในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ซึ่งส่งผลให้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องเดินทางขอกลับประเทศทางด้านด่านถาวรข่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มมีแรงงานก่อสร้างชาวไทยกลับภูมิลำเนาในจังหวัดสุรินทร์เช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลของ จ.สุรินทร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 14 ราย ในวันเดียว ทำให้จังหวัดต้องออกประกาศเข้มงวดในการเฝ้าระวัง
ในขณะเดียวกันตามสถานศึกษาต่างๆ ก็มีการกำชับเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะโรงเรียนตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีกลุ่มเสี่ยงหรือแรงงานเดินทางกลับเข้าในพื้นที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1 ได้มีการกำชับให้ฝ้าระวังอย่างเต็มที่ในเรื่องความปลอดภัยของเด็กและครู บุคลากรทางการศึกษา ให้มีการบริหารข้อมูลร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล สาธารณสุขอำเภอ นายอำเภอและผู้นำชุมชน ให้มีการวิเคราะห์กลุ่มเสี่ยง ให้ ผอ.โรงเรียนแต่ละแห่งใช้ดุลพินิจให้สามารถจัดการการเรียนการสอนได้ถ้าปลอดภัยในช่วงออนไซท์ ถ้าข้อมูลเปลี่ยนไปก็สามารถจัดการสอนในรูปแบบออนไลท์หรืออนนแฮนได้ ซึ่งล่าสุดมีโรงเรียนประถมขนาดใหญ่ รอบๆตัวเมือง ก็ได้ปรับการสอนจากให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนเป็นรูปแบบเรียนที่บ้านหรือแบบอนนแฮนและออนไลท์แทน และอีกหลายแห่งนับ 10 โรงแล้วที่ปรับเปลี่ยนการสอน เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิต 19 โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนมากเป็นผลมาจากการประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับบ้านเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก
นายคำปุ่น บุญเชิญ ผู้อำนวยการสำนักงานการประถมศึกษาสุรินทร์ เขต1 กล่าวว่า แนวทางการป้องกัน มีการเข้มงวดตามนโยบายของกระทรวงที่สั่งการมาต่อเนื่อง ในแนวปฏิบัติได้เน้นในเรื่องความปลอกภัยของนักเรียน บุคลากรครูเป็นหลัก ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ได้เน้นให้โรงเรียนได้บริหารข้อมูลร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล สาธารณสุขอำเภอ นายอำเภอและผู้นำชุมชน ให้มีการวิเคราะห์กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงนี้ได้รับทราบข้อมูลมีกลุ่มเสี่ยงเข้ามาจำนวนมาก ให้ ผอ.โรงเรียนแต่ละแห่งใช้ดุลพินิจให้สามารถจัดการการเรียนการสอนได้ถ้าปลอดภัยในช่วงออนไซท์ ถ้าข้อมูลเปลี่ยนไปก็สามารถจัดการสอนในรูปแบบออนไลท์หรืออนนแฮนได้ ซึ่งล่าสุดมีโรงเรียนประถมขนาดใหญ่ รอบๆตัวเมือง ก็ได้ปรับการสอนจากให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนเป็นรูปแบบเรียนที่บ้านหรือแบบอนนแฮนและออนไลท์แทน และอีกหลายแห่งนับ 10 โรงแล้วที่ปรับเปลี่ยนการสอน เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิต 19 โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนมากเป็นผลมาจากการประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับบ้านเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งก็ได้กำชับให้ครูและบุคลากรได้ประสานผู้นำชุมชน และอสม ได้เข้มงวดในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านั้นมาปะป่นกับเด็กๆได้ หากพื้นที่ใดพบมีกลุ่มเสี่ยงเข้ามาให้ ผอ.โรงเรียนใช้ดุลพินิจในการงดไปโรงเรียนหรือปรับรูปแบบการเรียนการสอนต่อไป