นายกวัฒนา เปิดโกดังเพิ่ม ทำรพ.สนามตำบล นำร่องรองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 300 เตียง
1 min readนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด 19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานก็ได้มีความประสงค์จะให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จัดหาสถานที่ในพื้นที่ความรับผิดชอบ เพื่อทำเป็นศูนย์รองรับการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด 19 หรือ โรงพยาบาลสนามระดับตำบล
อีกทั้งในเจตนารมณ์ส่วนตัวแล้วเคยบอกว่า จะช่วยทางจังหวัดในการให้พื้นที่โกดังอาคารโรงงานเพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนามไปจนกว่าโควิด 19 จะหมดไปจากประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มอบอาคารโกดังโรงงาน ส่วนเพิ่มเติมวัฒนาแฟคตอรี่ (2) ให้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม ของจังหวัดสมุทรสาคร หรือศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 8 รองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติไปแล้วนั้น แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันนี้พบว่าพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์มีผู้ติดเชื้อเป็นคนไทยจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่มีสถานที่รองรับในพื้นที่ อีกทั้งโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนามของจังหวัดก็มีไม่เพียงพอนั้น ตนเองในฐานะนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ที่เคยมอบอาคารโกดังโรงงานจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 8 ของจังหวัดสมุทรสาคร จึงเห็นว่าเมื่อคนพื้นที่พันท้ายนรสิงห์ต้องมาป่วยด้วยโรคติดเชื้อโควิด 19 แบบนี้ จึงได้ตัดสินใจมอบอาคารโกดังโรงงานบนเนื้อที่ 2.5 ไร่ ตั้งอยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงกับโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 8 ซึ่งมีสภาพความเหมาะสมทั้งสถานที่ตั้ง และการดูแลรักษาจากบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่แล้ว จากศูนย์ห่วงใยคนสาครแห่งที่ 8 เป็นการลดภาระและลดจำนวนของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเข้ามารับผิดชอบได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับอาคารหลังนี้ ที่จะดำเนินการให้เป็นศูนย์รองรับการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด 19 พันท้ายนรสิงห์ หรือ โรงพยาบาลสนามระดับตำบลพันท้ายนรสิงห์ จะรองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ได้ประมาณ 300 เตียง ซึ่งคาดว่าทางเจ้าหน้าที่ของ อบต.พันท้ายนริสงห์ จะเริ่มดำเนินการนำเตียงและอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงวางระบบการดูแลรักษาที่สำคัญได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ ใช้เวลาประมาณ 5 วันก็จะแล้วเสร็จสามารถรองรับผู้ติดเชื้อในตำบลพันท้ายนรสิงห์ได้อย่างแน่นอน ส่วนสถานการณ์ล่าสุดของตำบลพันท้ายนรสิงห์ขณะนี้ (9 ก.ค.64) พบผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 150 ราย และผู้เสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างการกักตัวอีกราวๆ 147 ราย
ภาพ/ข่าว ชูชาต แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร