แฉองค์กรรัฐลักไก่ อบรมคนงานไปเกาหลี ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน/เย้ยนายกฯตู่
1 min readท่ามกลางวิกฤติโควิด-19แพร่ระบาดไปทั่วประเทศในขณะนี้และยังมีแนวโน้มของการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเกือบถึงหลักหมื่นคนแล้ว ซ้ำร้าย ผู้ป่วยที่ต้องตายทุกวันก็มีตัวเลขที่น่าตกใจอย่างยิ่ง นโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนี้ได้สั่งห้ามจัด อบรม สัมมนา รวมถึงการรวมกลุ่มกันเกิน5คน โดยเฉพาะราชการทุกกระทรวง กรม กองทั่วประเทศ แต่ได้มีกระแสข่าวของหน่วยงานของรัฐได้ละเลยหรือจงใจที่จะละเมิดกฏกติกาของรัฐบาลเองหรือไม่ หรือจะเป็นโครงการที่รีบเร่งหรือไม่คงไม่ใช่เหตุผลด้วยซ้ำ
เหตุเกิดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มีหน่วยงานรัฐจัดกิจกรรมที่เรียกว่าโครงการพัฒนาศักยภาพคนหางานเพื่อการแข่งขันไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี เป็นการอบรมภาษาและวัฒนธรรมเกาหลีให้แก่คนหางานที่สอบผ่านเพื่อไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จากข้อมูลพบว่ามีการจัดกิจกรรมอบรมภาษาเกาหลีเป็นระยะเวลาถึง7วัน คือวันที่28มิถุนายน-4กรกฏาคม2564 โดยจัดกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา มีผู้เข้าอบรมทั้งสิ้นประมาณ55คนเป็นรุ่นที่2 และล่าสุดมีการจัดอบรมกันที่โรงแรมอีกแห่งที่จังหวัดร้อยเอ็ดซึ่ง โดยกำหนดการระหว่างวันที่11-16กรกฏาคม2564 กำหนดอบรมก่อนบิน45ชั่วโมง กิจกรรมที่จัดขึ้นนั้น จะมีการอบรมในเรื่องของภาษาเกาหลีและวัฒนธรรมเกาหลี และในสถานที่อบรมจะมีการบริการอาหาร เครื่องดื่มฟรีตลอดการอบรมแต่ละวัน ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมดนี้ ยังไม่มีและไม่ได้รับสัญญาจ้างหรือวีซ่าเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปทำงานแต่อย่างใด การอบรมในครั้งนี้ดูแล้วไม่ได้มีความเร่งด่วนแต่ประการใดเลย แต่ทำไมถึงต้องแหกกฎของรัฐบาล โดยเฉพาะการรวมคนหางานจำนวนมากที่ทุกคนเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อมาเข้าร่วมการอบรมเป็นเวลาหลายวัน
ซ้ำร้ายหากมีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19ขึ้นมาแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร เกิดเป็นคลัสเตอร์ของรัฐเสียเอง จะส่งผลกระทบต่อคนหางานเองอีกด้วยหากติดเชื้อโควิด-19ขึ้นมา ขณะที่ทางการเกาหลีใต้เองก็เข้มงวดในเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19มากกว่าไทยเสียด้วยซ้ำ และมีการงดเดินทางหรือส่งคนหางานอยู่ในขณะนี้อีกด้วย ดังนั้นการจัดฝึกอบรมโครงการนี้ในช่วงเวลาที่รัฐบาลได้ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร แล้วยิ่งล่าสุด ศบค.และรัฐบาลพยามหามาตรการหยุดการแพร่ระบาด โดยออกประกาศเข้มงวดชนิดสูงสุดขึ้นมาอีกโดยออกประกาศให้หลายพื้นที่ต้องมีการระวังอย่างเข็มงวดขั้นสูง อาทิ ห้ามรับประทานอาหารในร้าน ประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่ 21.00-04.00น. ห้ามจัดงานสังสรรค์รื่นเริง ห้ามจัดกิจกรรมหรือรวมกลุ่มกันเกิน 20คนขึ้นไป และอีกหลายๆ มาตรการ เพื่อหวังว่าจะชะลอการแพร่ระบาด หรือหยุดการกระจายของเจ้าเชื้อร้ายไวรัสโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายออกไป ที่สำคัญคือหยุดวิกฤติสาธารณสุขไม่ให้พังทลาย
จากมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของรัฐบาลครั้งนี้ยอมรับว่า ธุรกิจน้อยใหญ่ทั้งรายเล็กรายใหญ่ก็ได้รับผลกระทบกันทั้งนั้น และทุกคนก็ปฏิบัติตามนโยบายทั้งสิ้น รวมถึงโครงการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงาน ณ ประเทศเกาหลีใต้ ต้องยอมรับว่ามีโรงเรียนสอนภาษาเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับรัฐและมีหน้าที่ในการจัดฝึกอบรมให้คนหางานและการันตีสอบผ่านการคัดเลือกกว่า 90เปอร์เซ็นต์ ก็หยุดกิจกรรมลงทั้งหมดในช่วงเวลานี้ จนมีหลายแห่งต้องปิดสถานศึกษาชั่วคราว โดยไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือแต่อย่างใด ในขณะนี้ค่าใช้จ่ายยังต้องแบกภาระค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นข้างต้น ส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหรือไม่ และหากมีความต้องการเร่งด่วนจริง สถาบันการสอนฯที่มีอยู่ทั่วประเทศจะดำเนินการอบรมโดยที่คนหางานเองก็ไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัด เพราะโรงเรียนเอกชนที่ว่านี้มีอยู่แทบทุกจังหวัดที่มีคนหางานสอบผ่าน และเป็นการช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนให้ผ่านพ้นวิกฤติไปด้วย แต่นี่ราชการจัดโครงการกิจกรรมอบรมเสียเองท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนี้