ชาวบ้านขับไล่ ผอ.รร.นำผู้ติดโควิดมาทำกิจกรรมทำให้ครูติดเชื้อแต่ไม่แจ้งผู้นำชุมชนและปิดบังไทม์ไลน์กลัวมีการแพร่เชื้อกระจาย
1 min readตัวแทนชาวบ้านเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้นายอำเภอตรวจสอบและย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนนำกลุ่มนักบาสติดโควิดมาทำกิจกรรมที่บ้านแล้วไม่แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนผู้อำนวยการติดเชื้อโควิดและติดครู จนชาวบ้านวิตกกังวลกลัวมีการแพร่เชื้อกระจาย
วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น.บริเวณที่ว่าการอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี นายชัยอนันท์ ทองหล่อ พร้อมตัวแทนชาวบ้าน ต.สร้างแป้น จำนวน 5 คน ได้ถือป้ายเขียนข้อความว่าเราไม่ผอ. เราไม่เอาโควิด ออกไป แล้วเข้าไปยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาใน ต.สร้างแป้น นำบุคคลภายนอกพื้นที่มาจัดเลี้ยงและทำกิจกรรม โดยไม่มีการป้องการแพร่ระบาดเชื้อโควิด19 จนมีการติดเชื้อโควิดในกลุ่มคลัสเตอร์นักบาสเกตบอล และ ผู้บริหารสถานศึกษาและภรรยาติดเชื้อโควิด แล้วไม่แจ้งให้ผู้นำชุมชนทราบ จนมีบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อเพิ่ม อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอและอ.ส.ม.ยังไม่มีการเข้าไปตรวจบุคคลและชาวบ้านที่มีความเสี่ยง ทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัวและกังวลใจ จึงได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับนายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ ผ่านทาง นายกิติภูมิ ดวงพรม ปลัดอาวุโส อ.เพ็ญ เพื่อทำการตรวจสอบ
นายชัยอนันท์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ในการเข้ายื่นหนังสือครั้งนี้ เนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน2564 ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลสร้างแป้น อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ได้นำกลุ่ม นักบาสเกตบอล จากนอกพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในนักบาสเกตบอลนั้นเป็นหลานของภรรยา ผอ.โรงเรียน เข้ามาจัดเลี้ยงและร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านสวนตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ้านสร้างแป้น โดยมีการกินเลี้ยงและจัดกิจกรรมดังกล่าว ไม่มีการควบคุมบุคคลที่เข้าร่วมกิจกรรมให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคอุดรธานี โดยทุกคนที่ไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัย อีกทั้งไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม
หลังจากนั้นได้มีข่าวว่ากลุ่มนักบาสเกตบอลติดเชื้อโควิด19 ซึ่งไทม์ไลน์เป็นกลุ่มเดียวกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จำนวน 8 ราย ส่วน ผอ.โรงเรียน พร้อม ภรรยาก็ติดเชื้อโควิดด้วย และยังมีการแพร่เชื้อให้กับครูในโรงเรียนติดเชื้ออีก 2 ราย และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดต้องกักตัวเพื่อรอดูอาการจำนวนมาก โดยยังอยู่ในการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
หลังจากที่ชาวบ้านทราบเรื่องดังกล่าวสร้างความหวาดกลัว วิตกกังวล สร้างความเดือนร้อน ให้แก่ครอบครัวของกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงที่มีโอกาสจะติดเชื้อ รวมถึงนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน เนื่องจากในช่วงนั้นยังมีการรับใบงานที่โรงเรียนและทำให้ชาวบ้านตำบลสร้างแป้น ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ต้องการให้หน่วยงานตรวจสอบว่าเหตุใด ผอ.โรงเรียน จึงประพฤติปฏิบัติโดยขาดจิตสำนึกและขาดความรับผิดชอบต่อชุมชน และเป็นข้าราชการแต่กลับประพฤติตนไม่เป็นแบบอย่างที่ดีฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี จนเป็นเหตุให้เกิดกรณีดังกล่าว
นายชัยอนันท์ กล่าวต่อว่า ถึง ผอ.โรงเรียนรักษาหาย แล้วมาพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้าน คิดว่าชาวบ้านคงจะไม่ยอมอีกแล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ระดับหมู่บ้าน เพราะประชาชนในพื้นที่ และตำบลใกล้เคียง จึงอยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ ผอ.โรงเรียนย้ายโดยการเร่งด่วน และให้หน่วยงานสาธารณะสุขเข้าตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงเพื่อสร้างความสบายใจให้กับชาวบ้าน ซึ่งตนและชาวบ้านก็จะยื่นหนังสื่อไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต1 อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาให้ตรวจสอบเรื่องวินัยผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย
นายกิติภูมิ ดวงพรม ปลัดอาวุโส อ.เพ็ญ กล่าวว่าในเรื่องของการที่มีหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาท่านหนึ่ง ใน ต.สร้างแป้น ทางอำเภอได้รับเรื่องแล้ว ในวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม จะได้ลงพื้นที่ พร้อมกับทีมสาธารณสุขอำเภอ รพ.สจ.สร้างแป้น เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยอันดับแรกจะสอบสวนตามไทม์ไลน์ ที่ปรากฏในหนังสือร้องเรียนว่ามีใครที่ไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยงบ้าง จะได้ทำการสอบสวนโรค และทำตรวจตามกระบวนการทางการแพทย์ ในการตรวจโควิดว่ามีขั้นตอนแบบไหนบ้างกับทีมงานสาธารณะสุขอำเภอ ในส่วนพฤติกรรมก็จะเป็นอีกประเด็นต้องสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะได้รายงานนายอำเภอ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี