สุรินทร์ ผู้ป่วยประสงค์กลับบ้านรอบแรก ถึงแล้วโดยขบวนรถไฟ โดยทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรอรับที่หน้าชานชาลา (มีคลิป)

สุรินทร์ ผู้ป่วยประสงค์กลับบ้านรอบแรก ถึงแล้วโดยขบวนรถไฟ โดยทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมรอรับที่หน้าชานชาลา มีเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน ทั้งของสาธารณสุข ทหาร ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน

วันที่ ( 27 ก.ค. 64) จากการที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุม ติดตามเตรียมการส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนาในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครราชสีมา อำนาจเจริญ ยโสธร และ สุรินทร์ ผ่านระบบประชุมทางไกลออนไลน์ โปรแกรม Zoom ณ กระทรวงคมนาคม โดยเริ่มให้ส่งผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 64 เป็นต้นไป

เป็นขบวนรถไฟขบวนพิเศษขบวนที่ 971 เที่ยวขึ้นจาก กทม.-อุบลราชธานี นำส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ซึ่งจะออกจากต้นทางสถานีรังสิต เวลา 09.50 น.ปลายทาง อุบลฯเวลา 18.00 น.มีผู้โดยสารจำนวนทั้งสิ้น 137 คน มีจังหวัดสุรินทร์กลับมาในขบวนนี้จำนวน 16 คน โดยขบวนรถจะมาจอดที่สถานีลำชีในเวลาประมาณ 15.38 น. ตามกำหนดนั้น ปรากฏว่าขบวนรถไฟเข้าล่าช้ากวัวกำหนด ถึงสุรินทร์เวลา 18.30 น.

ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์ก็ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการรับ-ส่ง โดยมีรถจากโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธินมารอรับที่หน้าชานชาลา นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของสาธารณสุข ทหาร ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้ร่วมในการดำเนินการ รับและส่งป่วย ตามขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย

โดยชาวสุรินทร์ที่ประสงค์จะกลับมารักษาตัว 16 รายนั้น พบว่า มาแค่ 1 ราย เป็นชาวตำบลหนองบัวบานอำเภอ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยเจ้าหน้าที่จะนำผู้ป่วยออกจากสถานีรถไฟลำชีไปยังจุดคัดกรอง ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ศิลปชีพอีสานใต้ ถนนเลี่ยงเมือง ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามศูนย์ราชการจังหวัดสุรินทร์ เพื่อทำการคัดกรองตามมาตรการที่ทาง ศบค.สุรินทร์วางไว้ ก่อนส่งต่อภูมิลำเนาต่อไป

ส่วนชาวสุรินทร์ที่มีการแจ้งความประสงค์ที่จะเดินทางกลับมารักษาตัวผ่านศูนย์ประสานงานรับ-ส่ง ผู้ป่วยขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จนถึงขณะนี้พบว่ามีผู้แจ้งความประสงค์มาเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังคงมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับมารักษาตัวที่จังหวัดสุรินทร์ซึ่งเป็นชาวสุรินทร์อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ยอดผู้ประสงค์ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ติดต่อเข้ามาที่ศูนย์ประสานงานรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด ที่ต้องการเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้าน ของ อบจ.สุรินทร์ ตั้งแต่เปิดศูนย์มาเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ประสงค์ขอเดินทางกลับบ้านวันละ 100 กว่าคน รวมแล้วประมาณ 1 พันกว่าคนในขณะนี้

ด้านนายแพทย์สินชัย ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า การรับผู้ป่วยกลับบ้าน เป็นโครงการร่วมของ สุรินทร์แบ็คโฮม เป็นความร่วมมือของกระทรวงคมนาคม ร่วมกับจังหวัดสุรินทร์ ประกอบด้วย ทางมหาดไทย กลาโหม ทางกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ มีการประสานร่วมมือกันเตรียมความพร้อมไว้ตลอด มีทั้งรูปแบบมาลักษณะเป็นกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย กรณีที่เป็นกลุ่มใหญ่ก็มีพื้นที่รองรับในการคัดแยก เพื่อหลีกเลี่ยงไปประปนกับชุมชน จังหวัดสุรินทร์ใช้ที่บริเวณพื้นที่สถานีรถไฟลำชี ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับจังหวัด และมีพื้นที่ศูนย์ศิลปาชีพอีสานใต้เป็นพื้นที่รองรับในการตรวจคัดแยกผู้ป่วย ก่อนส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งในความพร้อมไม่ว่าจะเป็นทางทหารซึ่งมีโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน เป็นทีมพี่เลี้ยง หรือมณฑลทหารบกที่ 25 ก็เป็นกำลังสำคัญในการรับส่งผู้ป่วย และในท้องที่ทุกแห่งหากมีการประสานไปก็พร้อมที่จะจัดรถรับส่งไปยังพื้นที่อำเภอภูมิลำเนาตลอดเวลา

ในขณะที่ผู้ป่วยที่ลงมาจากรถไฟเป็นรายแรก มีการวัดความสามารถระดับออกซิเจนออกคนไข้ ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ก็ต้องขอบคุณทีมที่นำพามาทั้งหมดดูแลได้ดีมาก ต่อจากนี้ไปก็จะเป็นการรักษาพยาบาล ทางโรงพยาบาลสุรินทร์จะรับเข้าไปแล้วประเมินสถานการณ์ของสถานะทางปอด ถ้าไม่มีอาการมากก็จะนำส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม หากมีอาการหนักก็จะทำการล็อกรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ต่อไป

ในขณะเดียวกันจำนวนชาวสุรินทร์ที่ประสงค์เดินทางกลับมารักษาตัวที่จังหวัดบ้านเกิด ตั้งแต่ประกาศสุรินทร์พร้อม ก็มีผู้คนกลับมาเป็นจำนวนมากทั้งในหมู่บ้านและส่วนของโลคอลคอรันทีนในระดับหมู่บ้านตำบลส่วนหนึ่งและมีการคัดแยกตัวออกมา ซึ่งปัจจุบันมีเข้ามาประมาณ 2,000 กว่าราย ซึ่งในจำนวนนี้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันในการดูแลรักษา และมีผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้ท่อออกซิเจนอยู่ประมาณ 20 ราย ในขณะที่ความพร้อมของโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยทั้งหมดในเครือข่าย มีความพร้อม แต่หากมีมากกว่านี้ก็จำเป็นต้องมีการขยายเตียงเพิ่มขึ้นอีก

ในเบื้องต้นที่มีการประสานมาเกือบ 200 ราย ทำให้เกิดกระแสวิตกในจังหวัดสุรินทร์ หลังจากนั้นทราบว่าในส่วนของท้องถิ่นเอง ทั้งทหารไม่ว่าจะเป็นส่วนของ มทบ.25 สุรินทร์และ กองกำลังสุรนารี มีการนำส่งผู้ป่วยชาวสุรินทร์ตามโรงพยาบาลต่างๆ และก็ทยอยมาในหลายภาคส่วน ร่วมไปถึงที่เดินทางกลับเอง ทำให้จำนวนลดลง และหลายส่วนก็มีการรับเข้ารักษาแล้ว จึงทำให้จำนวนลดลง ถือว่าเป็นการทดสอบระบบ ต้องขอบคุณทุกดภาคส่วนที่ร่วมมือช่วยกันในครั้งนี้

ในขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน กระจายไปทั้ง 17 อำเภอ ลงถึงระดับตำบลแล้ว แต่ทางสุรินทร์แจ้งว่ายังเอาอยู่ตอนนี้