สุรินทร์ ชาวบ้านพบไพลด่าง ไพลหายาก คาดเป็นไพลปลุกเสก และใกล้สูญพันธุ์ (มีคลิป)
1 min readวันที่ 28 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงาน ที่หมู่บ้านในพื้นที่ชายแดนไทย จ.สุรินทร์ ได้พบเรื่องราวสุดฮือฮา หลังจากที่กระแสต้นไม้ด่างมาแรงสุดและมีราคาแพงอยู่บนโลกออนไลน์ในขณะนี้ ทั้งต้นกล้วยด่าง บอนสี บอนด่างๆ ล้วนแต่มีราคาซื้อขายกันหลักหมื่นหลักแสน ทำให้ชาวบ้านหลายๆคนต้องเดินสำรวจพื้นที่ในบ้านของตนเองเผื่อหวังว่าจะมีต้นไม้ด่างตามที่เป็นข่าว แต่กลับกลายเป็นเรื่องราวที่คาดไม่ถึง ที่บริเวณหลังบ้านเลขที่ 116 ม.13 บ้านลันแต้อุดมสุข ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ บ้านของคุณยายลน สืบศรี วัย 82 ปี พบพืชชนิดหนึ่งขึ้นปะปนอยู่รวมกับก่อไพลบ้านจำนวนกว่า 10 ต้น โดยพืชดังกล่าวมีลักษณะต้น ก้าน ใบ หัวและเนื้อในมีสีเหลืองเหมือนกับไพลธรรมดา แต่พื้นใบมีป้ายขาวเป็นทางคล้ายว่านข่าจืด และหัวมีขนาดเล็กกว่าหัวไพล โดยชาวบ้านเชื่อว่าว่านชนิดนี้คือไพลด่าง หรือว่านไพลปลุกเสก หรือว่านฤาษีสร้าง แล้วแต่ละพื้นที่จะเรียกขานกัน ซึ่งในอดีตนั้นคนนิยมนำมาปลูกไว้ในบ้านเรือนเพื่อปกกั้นภูตผีปีศาจ ป้องกันมนต์ดำ โดยการนำเอาหัวว่านไพลด่างมาทำการปลูกเสกนั้นเอง คนถึงมักเรียกว่านชนิดนี้ว่าว่านไพลปลุกเสก
สำหรับตามตำรายาโบราณเชื่อว่าว่านไพลปลุกเสก เป็นไพลธรรมดาที่ฤาษีปลุกเสกแล้วเกิดอภินิหารบังเกิดเป็นทางขาวขึ้นที่ใบ นับเป็นของกายสิทธิ์แก้ได้สารพัดโรค ที่เรียกว่ายาวิเศษ ผู้ใดนำมาปลูกไว้จะบังเกิดลาภผล โภคทรัพย์ จะทำการใดๆย่อมสำเร็จโดยทุกประการ ใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆตามอธิษฐาน หากจะใช้ขับภูตผีปีศาจหรือแก้คุณไสยต่างๆให้ใช้หัวฝนกันน้ำสุราทั้งกินและทา ถ้าจะให้แคล้วคลาดให้นำหัวพกติดตัวและเสกด้วย “อิติปิโส จนถึงภควาติ” 3 จบเสียก่อน ถ้าจะให้คงกระพันให้เสกหัวกินด้วย “นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ” 3 จบ หรือใช้หัวตำกินกับเหล้าเสกด้วย “กอออนออะ นะอะกะอัง” 108 ครั้ง ถ้าจะแก้คุณไสยให้เสกด้วย กรณียเมตตสูตร คือ “เมตตัญจะสัพพโรกัสมิง มานะ สัมภาวะเย อะปริมานัง อัทธังอะโท จริยันจะ อะสัมภาทัง อะเวรัง อัสสะปัตตัง ติจถันจะรัง นิสินโนวา สะยาโนวา ยาวะตัสสะฯ” 9 ครั้ง เอาหัวตำให้ละเอียด ละลายกับน้ำฝนทาตามตัว และคั้นน้ำให้กิน ว่านนี้บางตำรากล่าวว่าสรรพคุณนั้นดีกว่าไพลดำเสียอีก อนึ่งก่อนจะทำการรักษาโรคใดๆให้ทำการจุดูธูปเทียนบูชาระลึกถึงพระฤาษีที่ประสิทธิ์ว่านยานี้ก่อน
ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามคุณยายลน สืบศรีในวัย 82 ปี ท่านไม่สามารถพูดเป็นภาษาไทยได้ ทางทีมข่าวจึงได้ถามเป็นภาษาเขมรซึ่งเป็นภาษาในท้องถิ่นสุรินทร์ได้ใจความว่า เนื่องจากคุณยายมีอายุมากแล้วจึงไม่ทราบว่าคุณยายได้นำมาปลูกไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน ได้มาจากไหน คุณยายตอบไม่ได้ บอกได้เพียงว่าได้นำมาปลูกไว้นานแล้ว ตามความเชื่อของคนโบราณ ที่นิยมปลูกไว้ในบ้านจะสามารถป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันมนต์ดำ ป้องกันคุณไสย ซึ่งในอดีตคนจะเชื่อเรื่องคุณไสยกันอย่างมาก จึงได้หายาหรือสมุนไพรว่านที่สามารถปกปักรักษามาปลูกติดบ้านกันนั่นเอง