ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรับมอบ เตียงกระดาษ HSFC Paper Bed จากบริษัท เอเวอร์กรีน พลัส จำกัด เพื่อใช้สำหรับจัดตั้ง Community Isolation (CI) (มีคลิป)
1 min readผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรับมอบ เตียงกระดาษ HSFC Paper Bed จากบริษัท เอเวอร์กรีน พลัส จำกัด จำนวน 100 เตียงแรก เพื่อใช้สำหรับจัดตั้ง Community Isolation (CI) หรือศูนย์กักตัวในชุมชน รองรับประชาชนผู้ป่วยโควิด 19 ในกลุ่มสีเขียว ณ แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี
ที่ อาคารสโมสร แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย พลตรี ณพล วงศ์วัฒนะ เสนาธิการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรับมอบ เตียงกระดาษ HSFC Paper Bed จากบริษัท เอเวอร์กรีน พลัส จำกัด จำนวน 100 เตียง แรก เพื่อใช้สำหรับจัดตั้ง Community Isolation (CI) หรือศูนย์กักตัวในชุมชน รองรับประชาชนผู้ป่วยโควิด 19 ในกลุ่มสีเขียว ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ทั้งผู้ป่วยจากชุมชน และคลัสเตอร์ ต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี รวมถึงผู้ติดเชื้อจากพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่ได้ลงทะเบียน ขอกลับมารักษาอาการป่วยตามภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดลพบุรี
ทั้งนี้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สนับสนุนกำลังพล จาก กองบริการ ศูนย์สงครามพิเศษ จำนวน 25 นาย เร่งทำการขนย้าย และประกอบเตียงในเบื้องต้น จำนวน 100 เตียง เพื่อให้ทันต่อการให้บริการ รองรับผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในขณะนี้ ซึ่ง Community Isolation (CI) หรือศูนย์กักตัวในชุมชน แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจังหวัดลพบุรี สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด 19 ได้ จำนวน 250 เตียง เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับการรองรับดูแลสังเกตอาการ ผู้ป่วย ตามมาตการสาธารณสุข เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว และเมื่อมีอาการที่รุนแรงในขณะกักตัวภายในศูนย์ ซึ่งทีมแพทย์ผู้ดูแลจะเป็นผู้ประเมินอาการอีกครั้ง ก่อนประสานส่งต่อให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามระบบของสาธารณสุขได้ในทันที
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นนโยบาย และข้อห่วงใยของพลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้สั่งการให้หน่วยทหารทั่วประเทศ ใช้อาคารสโมสรหรืออาคารเอนกประสงค์ในค่ายทหารทั่วประเทศ เป็นโรงพยาบาลสนามศูนย์คัดกรอง เพื่อประเมินอาการ และดูแลผู้ป่วยสีเขียวในเบื้องต้น ก่อนประสานส่งต่อให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามระบบของสาธารณสุข แต่ละพื้นที่ต่อไป รวมถึงขยายขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่เดิม และเพิ่มการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่หน่วยทหาร ด้วย
ภาพ/ข่าว สมชาย เกตุฉาย
เอกพงษ์ พรหมเรนทร์ รายงาน