ตร.กู้ภัย งง? มีคนกระโดดสะพานฆ่าตัวตายไม่ถึงชั่วโมงลอยอืด

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 10 ส.ค. 64 ร.ต.อ.เกริกชัย สุขันทอง รอง สวป.สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากะลเมืองดีว่ามีเหตุคนกระโดดสะพานปทุมธานี 1 ฆ่าตัวตาย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุบนกลางสะพานปทุมธานี 1 พบรองเท้าแตะ 1 คู่ เมื่อสอบถามนายเอกราช ทองปิ่น อายุ 36 ปี คนตกปลาใต้สะพานกล่าวว่าขณะที่ตนนั่งตกปลาอยู่บนตอม่อใต้สะพานจู่ๆก็เห็นร่างคนตกมาจากกลางสะพาน โดยสวมเสื้อผ้าสีดำ จากนั้นก็เห็นหัวผลุบๆโผล่ๆขึ้นเหนือน้ำจากนั้นก็จมหายไป ส่วนจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายตนไม่แน่ใจ

ต่อมาเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน พ ต.ท.สุระพงษ์ ตรึสมพงษ์ สว.(สอบสวน) สภ.สวนพริกไทย ได้รับแจ้งจากพระวัดมะขาม ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ว่ามีเหตุชาวบ้านที่มาให้อาหารปลาหน้าวัดพบเห็นศพคนลอยอืดอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอยู่ห่างจากสะพานปทุมธานี1 ไม่ถึง 800 เมตร โดยให้กู้ภัยฯกับชาวบ้านนำเรือออกไปใช้เชือกลากเข้ามาไว้ท่าน้ำหน้าวัด

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าสภาพศพลอยคว่ำหน้า สวมเสือยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ โดยทั้งตำรวจและกู้ภัยฯต่างฉงนและงงไปตามๆกันว่าศพดังกล่าวจะป็นบุคคลเดียวกันกับที่คนตกปลาเห็นใช่หรือไม่ เนื่องจากทำไมศพจมน้ำถึงลอยขึ้นอืดเหนือน้ำได้เร็วขนาดนี้ หลังจากนั้นจึงประสานไปยังแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้เดินทางมาร่วมชันสูตร

หลังจากกู้ภัยฯ นำศพขึ้นมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ชันสูตรเบื้องต้นพบว่าเป็นศพผู้หญิง ผมสีทอง ประบ่า อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 155 เซนติเมตร ตรวจสอบไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้าย แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง ตรวจค้นในตัวไม่พบหลักฐานและเอกสารใดๆก่อนมอบให้มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต และจะได้ติดตามหาญาติเพื่อคลี่คลายหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป

ส่วนสาเหตุที่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กู้ภัยฯ พร้อมชาวบ้านที่มีความสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่คนจมน้ำเสียชีวิตแล้วสามารถจะลอยขึ้นเหนือน้ำได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง แพทย์ระบุว่าอาจเป็นไปได้เพราะในร่างกายของคนเราจะมีแก๊สอยู่ในตัวแต่ก็ มีโอกาสไม่มากนักในลักษณะเหมือนกับเคสนี้ ส่วนจะใช่บุคคลเดียวกันกับที่พยานเห็นหรือไม่นั้นคงจะต้องมีการ สืบสวนสอบสวนต่อไป

ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน