นครปฐม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดนครปฐม (มีคลิป)
1 min readนครปฐม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดนครปฐม ตามแผนยุทธการสยบไพรี 64/11 สิ้นลายเสือสายสี่ พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม 19 ล้านบาท
วันที่ 19 สิงหาคม 2564 พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ตัวแทนจากหน่วยงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และหน่วยงานที่บูรณาการร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญที่จังหวัดนครปฐม ตามแผนยุทธการสยบไพรี 64/11 สิ้นลายเสือสายสี่ ณ อู่ซ่อมรถ AP เซอร์วิส ซอยกระทุ่มล้ม 18 ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 322/2564 คือ นายบุญช่วย เกศา หรือ แอ๊ด ในความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือ ยาบ้า ไว้ในครอบครอง และกระทำความผิดฐานฟอกเงิน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินได้แก่ คอนโด 1 ห้อง บ้าน 2 หลัง ที่ดินและสวนยางพารา 2 แปลง 6 ไร่ และรถยนต์ 4 คัน มูลค่ารวม 19 ล้านบาทเศษ
พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ 100 กิโลกรัม จึงได้สืบสวนและขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ต้องหากับพวกอีก 5 คน เมื่อเดือนเมษายน 2564 พร้อมของกลางยาบ้า 7,986,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และจากคดีนี้สืบสวนทราบว่า นายแอ๊ด เป็นผู้สั่งการในการลำเลียงยาเสพติด โดยได้นำรถตู้ของกลางมาดัดแปลงสภาพ เพื่อซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนดังกล่าวที่อู่ของตนเอง และให้นายนรากร พันธ์เพ็ง หรือ หนุ่ย ซึ่งเป็นลูกน้องขับรถไปรับยาเสพติดที่จังหวัดนครพนม จนถูกจับกุม และเป็นที่มาของการเปิดยุทธการสยบไพรี 64/11 สิ้นลายเสือสายสี่ โดยทำการปิดล้อมตรวจค้น 35 เป้าหมาย ทั้งในเขต กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนสามารถจับกุมนายแอ๊ดได้ในครั้งนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ทางตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนา ที่สามารถนำผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย และในเร็วๆ นี้จะสามารถขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน
ด้านนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้บูรณาการทุกภาคส่วน ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเฝ้าระวังและติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตามการข่าวที่ได้รับ กรณีที่มีผู้ลักลอบขนย้ายยาเสพติดผ่านเส้นทางในจังหวัดนครปฐม สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ทางจังหวัดจะดำเนินการขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องในทุกกลุ่มทุกพื้นที่ อีกทั้งตรวจสอบอู่ซ่อมรถ โกดัง หรือสถานที่อื่นๆ ที่อาจเป็นแหล่งพักยาเสพติด ในพื้นที่อำเภอสามพราน ต่อไป
ภาพ/ข่าว ปนิทัศน์ มามีสุข / นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม