ตำรวจเพื่อประชาชน “ตำรวจมีด้านมืดและสว่าง”

ตำรวจเพื่อประชาชน ส.ค.64
ตำรวจมีด้านมืดและสว่าง

ธรณียุทธจักรสีกากี ต้องสั่นสะเทือนไร้แรงต้านทานใดๆสยบได้ จนเก้าอี้ ผบ.ตร.ลุกเป็นไฟลนก้น ผบ.ตร.และองค์การตำรวจประเทศไทย ต้องช็อก เมื่อปรากฏภาพ ผกก.โจ้ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องร่วมกันทารุณกรรม ผู้ถูกกล่าวหาค้ายาเสพติด เพื่อรีดเงิน 2ล้านบาท ด้วยการใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ถูกกล่าวหา ในขณะที่ลูกน้องต่างช่วยกันจับตัวผู้ถูกทารุณกรรม ไม่ให้ดิ้นรนขัดขืน ภาพดังกล่าวเด่นชัดอย่างไร้สามัญสำนึกต่อมนุษย์ที่มีต่อกัน และโดยเฉพาะผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน แต่ประชาชนคนหนึ่ง ถูกกล่าวหาค้ายาเสพติด ถูกบังคับรีดเงิน ด้วยการทรมานสุดเถื่อน จนเสียชีวิตคามือ สองมือพนมที่ผกก.โจ้เคยกราบไหว้ประชาชน ในภาพตำรวจนักบุญ นั่นคือด้านสว่างของบุคคลผู้นี้ แต่ในด้านมืด ผกก.โจ้คือฆาตกรเลือดเย็น ทุกคนเห็นภาพต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมสุดเลวของตำรวจผู้นี้

ก่อน ผกก.โจ้ มาดำรงตำแหน่ง สภ.เมืองนครสวรรค์ มีความทะเยอทะยานในสิ่งที่ตนต้องการ มาบำเรอความสุขตนเอง ด้วยอายุยังน้อย ผู้ใหญ่มองไปไกลถึงอนาคตของผกก.โจ้ จึงให้ความมั่นใจ ประกอบด้วยท่วงท่าอ่อนน้อมถ่อมตน มีอาวุธดีคือพนมมือไหว้ต่อผู้ใหญ่ ลักษณะเช่นนี้คนที่ใหญ่กว่าเลยให้ความเอ็นดู ความรักมาตลอด

สมัยที่อยู่หน่วยปราบปรามยาเสพติด สารวัตรโจ้อยู่ถูกที่ถูกเวลา มีผลงานจับยาเสพติด จนชื่อติดหูนาย ในขณะที่สารวัตรโจ้รู้เส้นทางทำเงินจากคดียาเสพติด และค้ารถหรูเถื่อน จึงนำตนเองสู่แวดวงสีเทา จนร่ำรวยจากเม็ดเงินบาป เงินเดือนหลักหมื่น แต่มีทรัพย์สินนับร้อยล้านบาท ถูกหมกไว้หลายจุด ซึ่งทีมไล่ล่ากำลังแกะรอยขยายผล ใครคือ นอมินี ผกก.โจ้

บาปกรรมเดินมาถึงจุด เรื่องจึงถูกเปิดเผยมาจากตำรวจน้ำดี เมื่อหมดความอดทนกับพฤติกรรมของผกก.โจ้ อมเบี้ยเลี้ยง ไม่มองเห็นหัวลูกน้องชั้นผู้น้อย ในขณะ ผกก.โจ้ กินหรู อยู่สบาย ไม่เดือดร้อนค่าใช้จ่าย จะดูแลลูกน้องที่อยู่ในสายงานเท่านั้น โดยเฉพาะคนที่ทำผลประโยชน์

ในสถาบันตำรวจ ไม่มีหลักสูตรใดๆ สอนให้ตำรวจประพฤติชั่ว แต่จะสอนให้ตำรวจทุกคน อ่อนน้อม ถ่อมตน พร้อมรับใช้ประชาชน อดทน อดกลั้นต่อสภาพแวดล้อม โดยจะให้ตำรวจทุกคนท่องจนขึ้นใจ จนจบหลักสูตร นั่นคือด้านสว่างของตำรวจที่จบออกมารับราชการ เติบโตในสายงานสีเทาและสีขาว ก็ล้วนแต่ใครจะเลือกสีขาวหรือสีเทา

ผกก.โจ้ ไม่เคยคิดว่าตนจะพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต จากที่เคยยืนให้คนทำความเคารพ เป็นเบอร์หนึ่งของ สภ.เมืองนครสวรรค์ แต่วันนี้กลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยการทารุณกรรม อันผิดวิสัยมนุษย์ ล่วงละเมิดสิทธิผู้ถูกกล่าวหา ข่มขู่รีดทรัพย์เพื่อให้ได้มาซึ่งตนต้องการ นอกจากนี้ ยังมีคดีพ่วงท้ายอีกหลายคดี เช่นแจ้งใบแจ้งการตาย ระบุผู้เสียชีวิตเกิดจากพิษสารยาเสพติด และขู่เข็ญให้มีการแจ้งความเท็จ ล้วนแล้วแต่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต

ในคำสั่ง สตช. ได้แต่งตั้งทีมไล่ล่า ผกก.โจ้ ล้วนเป็นนายตำรวจฝีมือดี ที่ ผบ.ตร.ให้ความมั่นใจ ในวิธีคิดและการทำงาน เนื่องจากประชาชนทุกภาคส่วนให้ความสนใจในคดีนี้เป็นพิเศษ ผกก.โจ้จะจบลงด้วยวิธีใด หากสู้นั่น ต้องหมายถึงตำรวจต้องห้ำหั่นกันเอง แต่หากถูกจับเป็น ต้องขึ้นศาล หมดสิทธิทุกกรณี เพราะถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว แค่ดีก็ติดคุกตลอดชีวิต หรือไม่ก็ถูกประหารชีวิตในที่สุด ในขณะที่เพื่อน ตท.และนรต. หลายคนปิดปากเงียบ ไม่เอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ความร้อนแรงในวิธีคิด และพฤติกรรมซ้ำซ้อนของผกก.โจ้ถูกเฝ้ามองลับๆของตำรวจสีขาวกลุ่มเล็กๆ บนสภ.เมืองนครสวรรค์มานานพอสมควร จนได้เวลาเปิดเผยความเลวและตัวตนของ ผกก.โจ้ ออกสู่สาธารณชน ซึ่งประชาชนจะพึ่งใครได้ หากตำรวจเป็นโจรเสียเอง นั่นยังไม่เท่าฆาตกรเลือดเย็น เพียงต้องการรีดทรัพย์จากผู้กระทำความผิด

ในอดีต ตำรวจสอบสวนผู้ต้องหาให้รับสารภาพ ข่มขู่ ดีดไข่ ไฟลนไข่ จนผู้ต้องหายอมรับสารภาพ แต่ที่สุด ผู้ต้องหากลายเป็นแพะในคดีนั้นๆ ตำรวจชุดนั้นถูกดำเนินคดีไม่มีนายช่วย ทุกคนติดคุกยาว ผู้ต้องขังกลายเป็นเดนคุกคนหนึ่งในแดนสนธยา

ภาพถ่าย ผกก.โจ้และสารวัตรสืบ ลูกน้องคนสนิท ถูกแจกจ่ายไปตามจุดที่คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ ผกก.โจ้ ได้ก่อกรรม ต่างกรรม ต่างวาระในหลายคดี ล่าสุด ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาจนหมดลมหายใจ โดยมีลูกน้องช่วย ผกก.โจ้ในการฆาตกรรม อย่างป่าเถื่อน หน้าประวัติศาสตร์ ตำรวจจะต้องบันทึกไว้ในบัญชีกฎแห่งกรรม ที่สร้างตราบาปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจดจำ องค์กรตำรวจจะได้นำเหตุแห่งพฤติกรรมไปเป็นข้อเปรียบเทียบ ในการเรียนการสอนตำรวจ เพราะต่อไปตำรวจทำผิดทุกคนจะต้องเดินเข้าคุก

ในยุคสมัยที่เจริญด้วยเทคโนโลยีเช่นนี้ ตำรวจทำอะไรต้องระวังเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หากพลาดท่า หมายถึงฆ่าตัวตายทั้งเป็นเช่น ผกก.โจ้ เป็นต้น วันนี้ผกก.โจ้ยังอาจลอยนวล แต่ในวันหน้าไม่แน่สังคมโลกมันแคบ ผกก.โจ้อาจไม่คันเคย นอนกลางดิน กินกลางทราย ต้องหลบๆซ่อนๆ ไร้ความหรูหราชีวิตสุขสบาย เพราะเวลาน้สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ผกก.โจ้และคนสนิท หากมีสติอยู่ ยังมีชีวิตอยู่สู้ความจริง แต่หากไร้สติเมื่อใด เมื่อนั้น ก็คงเหลือแต่ชื่อ ไม่มีไว้อาลัย ไม่เศร้าโศกหรือแสดงอาการใดๆว่าสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก บ้านหรู รถหรูและทรัพย์สินอื่นๆ ก็จะตกเป็นของผู้อื่น เมื่อไม่มีตัวตน หากมีชีวิตก็เศษๆคนขี้คุก ไม่ต่างกับนักโทษคนอื่นๆ ที่เท่าเทียมกันในคุก

คดีของ ผกก.โจ้ สะท้อนด้านมืดของตำรวจเลว ส่วนน้อยเท่านั้น ตำรวจสีขาวใน สตช.ยังมีจำนวนมาก ที่ต้องการปฏิรูปตำรวจในรูปแบบสากลมากยิ่งขึ้น ขวัญกำลังใจ สวัสดิการ ความเป็นอยู่ ค่าตอบแทน การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งที่เป็นธรรมต่อตำรวจทุกนาย รวมถึงเบี้ยเลี้ยงทุกบาท ทุกสตางค์ มอบให้ตำรวจทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเที่ยงธรรม เหมือนคดี บอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหากลายเป็นผู้บริสุทธิ์ที่หลบหนีอยู่เวลานี้ ตลอดจนคดีตบทรัพย์ต่างๆ ของตำรวจที่เคยตกเป็นข่าวเรื่อยมา มันสะท้อนถึงรากเหง้าตำรวจไทย