เพชรบูรณ์ เพลิงไหม้บ้านวอด!! 6 ชีวิตต้องไร้ที่ซุกหัวนอน เหลือเพียงพระเครื่อง (มีคลิป)
1 min readเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 24 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.วังโป่ง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านดงเจริญ (บ้านดงลึกเก่า) จึงประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิง จาก อบต.วังศาล เข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดไฟ เมื่อไปถึง พบเพลิงกำลังลุกไหม้ บ้านเลขที่ 243 ม.10 ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ลักษณะ 2 ชั้น ครึ่งปูน ครึ่งไม้ มีนางสุนันท์ แป้นไม้ 57 ปี เป็นเจ้าของบ้าน โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง จนบ้านทั้งหลัง ถูกไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหมด มีเพียงแค่ ถังแก๊ส 3 ถัง ตู้เย็น 1 หลัง ที่ชาวบ้านช่วยกันยกหนีได้ทัน ส่วนทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ภายในบ้าน ถูกไหม้ไปกับกองเพลิงทั้งหมด โดยระหว่างเกิดเหตุ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ มีเพียง น.ส.วิภาวี แป้นไม้ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นหลานสาว พอทราบข่าว จึงรีบเดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเหตุ แต่พอเห็นสภาพบ้าน จนเกิดการเป็นลม ต้องรีบนำส่ง รพ.วังโป่ง ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
และในเวลาต่อมา เมื่อเพลิงสงบลงแล้ว ทางเจ้าของบ้าน ก็รีบเข้าไปตรวจสอบ ด้วยความหวังสุดท้ายว่า เงินเก็บจำนวน 5,000 กว่าบาท ที่เก็บเอาไว้ใช้ยามจำเป็น จะยังหลงเหลืออยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้ว ก็ถูกเปลวไฟเผาไหม้จนหมดเกลี้ยง คงเห็นแต่เพียง พระเครื่องโบราณ และตะกรุด ซึ่งเป็นของสะสมบรรพบุรุษ แม้จะถูกเปลวไฟไหม้ไปบ้าง แต่ยังคงสภาพดีอยู่
จากการสอบถาม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ที่บ้านหลังดังกล่าว มีนางสุนันท์ แป้นไม้ 57 ปี ผู้เป็นยาย กำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่เพิงหน้าบ้าน กับหลานรวม 3 คน สักพักก็ได้ยินเสียงดังบนบ้าน ดังเปรี๊ยะ แล้วก็เห็นควันไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง ด้วยความตกใจ จึงรีบวิ่งไปหาคนมาช่วย แต่ก็ไม่มีใครอยู่แถวนั้น เพราะลูกก็ไปทำงาน เลยไปโบกรถชาวบ้านที่ขับผ่าน เข้ามาช่วยลากถังแก๊สกับลากตู้เย็น ออกมาได้ทันแค่นั้น ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ไม่สามารถนำออกมาได้ทัน คาดสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ความเสียหายเบื้องต้น ไม่น้อยกว่า 300,000 บาท
สอบถาม นางสุนันท์ แป้นไม้ เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตอนนั้นตนนั่งอยู่ข้างหลังกับหลาน 2 คน อยู่ดีๆ โดยเสียงระเบิดที่เกิดชึ้นเหมือนเสียงกระจกลั่น แล้วไฟนั้นได้โหมแรงมาก ได้มีเสียงดังเปรี๊ยง แล้วก็มีควันพุ่งออกมา ตนตกใจมาก จึงรีบเรียกกวักรถบนถนนให้มาช่วยลากถังแก๊สและตู้เย็น ของในบ้านเสียหายหมดเลย ของใช้ โดยมีเงินที่เก็บไว้ถูกไฟไหม้ไปราวห้าพันกว่าบาท
ด้าน นายนพรัตน์ มีวงษ์ ลูกชายเจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุตนนั้นออกไปทำงาน ที่รู้ข่าวเพราะว่า ลูกชายนั้นออกไปตาม พอตนนั้นมาถึงบ้านได้พบว่าบ้านไฟไหม้แล้ว แต่กลับกลายเป็นว่ารถดับเพลิงนั้นมาช้าไป เพราะว่าระยะทางจากอำเภอมาที่บ้านของตนนั้นไม่ไกลเลย ควรจะใช้เวลาให้ไวกว่านี้ ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านหลังแรกที่รถดับเพลิงมาช้า แล้วทำให้เกิดเหตุการณ์เสียหายเยอะขนาดนี้ ซึ่งบ้านนั้นเป็นหลังคาสังกะสี ฝาบ้านนั้นก็เป็นสังกะสี แต่ไม่ควรจะไหม้หนักขนาดนี้ อยากจะวอนฝากให้พัฒนารถดับเพลิงให้ดีกว่านี้ เพราะถ้ามีแล้วใช้งานไม่ได้ ไม่รู้จะมีรถไว้ทำไม
ด้านนายสมศักดิ์ เกี้ยวเกิด นายอำเภอวังโป่งลงพื้นที่ช่วยเหลือและมอบสิ่งของพร้อมเงินช่วยเหลือนางสุนันท์ แป้นไม้ 57 ปี เจ้าของบ้านเบื้องต้น ที่บ้านเลขที่ 243 หมู่ 10 ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์
ภาพ/ข่าว เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว