วิพาษณ์การเมือง “พาลีครองเมือง”
1 min readวิพาษณ์การเมือง ส.ค.64
พาลีครองเมือง
ค่านิยมคนไทยชอบเป็นกบเลือกนาย คนดีมาอยู่ไม่นานก็ต้องไป เพราะพวกทุจริต คอรัปชั่น คดโกง ไปปิดช่องทางทำมาหากิน ขึงรวมตัว คัดคนประเภทเดียวกัน ขับไล่คนดีออกไป แล้วลากคนประเภททุจริตคอรัปชั่น เปลี่ยนยุคสีขาวให้เป็นยุคสีเทา ใส่ความบุคคลที่ออกมาขัดขวาง จนประชาชนเกิดความแตกแยก ด้วยสงครามจิตวิทยาทางคำพูด จนเกิดความขัดแย้งที่ต่าง จนที่สุด เข้าทาง คสช.ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ แล้วทำตัวเป็นศาลตัดสินความคนคิดต่าง
ในช่วงเวลานั้น คนไทยฝันบรรเจิดคงมีชีวิตที่ดีกว่าแน่ เพราะมีนายใหม่ แต่ เจ็ดปีที่ผ่านมาชีวิตคนไทยตกต่ำสุดๆ นอนตายริมฟุตบาท คุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารกิน ตามกองขยะ คนไทยตายเป็นใบไม้ร่วงจำนวนมากขึ้น เจ็บป่วยเพราะติดเชื้อไวรัส
ผู้บริหารบ้านเมืองก็ดีแต่พูด สิ่งที่พกติดตัวก็มีแต่ความล้มเหลวในทุกด้าน เจ็ดปีประเทศไทยไม่มีอะไรก้าวไปข้างหน้า มีแต่จะจมปลักในโคลนตม ประชาชนประกอบกิจกรรมใดๆไม่ได้ เพราะกฎหมายปิดภาคธุรกิจ โดยมีข้ออ้าง ระงับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ที่รัฐไม่ใส่ใจตั้งแต่ระบาดเข้าสู่ไทยเมื่อ 2–3 ปีที่ผ่านมา จนเชื้อไวรัสมันสุกงอม กระจาย จากคนสู่คน อย่างรวดเร็ว จนมันเกินกว่าจะแก้ไข ซ้ำร้ายไปกว่านั้น รัฐบาลล่าช้าในการคิดเขียนอ่าน การจัดหาวัคซีนและยาอื่นๆรวมถึงเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จนมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวัน จากหลักสิบถึงหลักร้อย แต่ตัวเลขถูกตกแต่งให้ทรงตัว ด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ โดยให้ฟังหน่วยงานรัฐเท่านั้น ประชาชนต้องอดทนฟังการโกหกรายวัน ซึ่งความจริงตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย สุดท้าย อดทน ดมกลิ่นซากศพไม่ไหว ต้องออกมารับความจริงว่าล่าช้า เพราะมัวแต่ยึดติดระบบข้าราชการ ตลอดจนในช่วงแรกไม่เชื่อว่า เชื้อมันจะระบาดเร็วปานนี้ เป็นเวลาเดียวที่รัฐปล่อยข่าวปลอม ออกมาเป็นระยะๆ แล้วโทษสื่อมวลชนไทยทุกแห่ง เพื่อปิดปากสื่อมวลชนไทยที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่เป็นผล เพราะรัฐบาลชุดนี้ ทำคุณคนไม่ขึ้น แม้อยู่ในท่ามกลางความคิดต่าง จากคนหลายกลุ่มออกมาถล่มรัฐบาลรายวัน และเป็นเช่นนี้ต่อไป จนกว่ารัฐบาลนี้ยุบสภาลาออก
เจ็ดปีฝากความหวังในชีวิต ต่อรัฐบาลในชุดนี้ไม่ได้ ทุกอย่างเป็นศูนย์ หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น สินค้าทุกประเภทพาเหรดขึ้นราคา ขณะที่คนไทยเงินขาดมือ ทำมาหากินอะไรไม่ได้ นอนรอความตาย จากการติดเชื้อ หากผู้นำมีความละอายใจในจิตสำนึกที่ดี เขาจะลาออก เพราะประชาชนไม่ต้องการ แต่ ที่นี่ประเทศไทย ผู้นำใช้ลูกตื้อ ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เพื่อยืนอยู่บนอำนาจ เพราะมีผลประโยชน์เอื้อต่อกัน ส่วนประชาชนคนไทยก็คือประชาชนคนไทย วันยังค่ำ มีสิทธิ มีเสียงก็ต่อเมื่อ กาบัตรเลือกตั้งเท่านั้น จากนั้นเป็นต้นมา ก็จะเป็นหน้าที่ตักตวง กอบโกย ผลประโยชน์ ทุจริตคอรัปชั่นเชิงนโยบาย ด้วยการใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเกราะป้องกันตนเอง ตำรวจจึงเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชน ต่อผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาลในทุกจุด โดยมีใบสั่งสลายการชุมนุม จนนำไปสู่การบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย สุดท้าย ตำรวจทำหน้าที่ปกป้องรัฐบาล มากกว่าประชาชน
พฤติการณ์ฉ้อฉลใช้ไฟฟ้าหลวง บ้านพักหลวง น้ำหลวง ทั้งที่เกษียณอายุราชการมากว่า 7 ปี แต่ยืนหยัดมาจนวันนี้ ฝ่ายหนึ่งคัดค้าน ฝ่ายหนึ่งสนับสนุน ที่ทำคุณประโยชน์เพื่อชาติ จึงมีสิทธิอยู่ต่อ ส่วนบรรดาจ่า นายสิบ ที่เกษียณอายุราชการแล้ว ในอดีตต่างทำคุณประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง ต้องถูกกำหนดให้ออกจากบ้านพักหลวง ตามเวลาที่กำหนด
แล้วมันน่าศรัทธาตรงไหนต่อผู้นำ ที่ยีนอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มาจากประชาธิปไตย มาด้วยวิธีพิเศษ จนต้องมองตนเองว่าถูกต้องทุกประการ เพราะเสียง สว.ลากตั้ง คอยหนุน ขณะที่พวกอวย อยากให้อยู่นาน จะได้กำจัดพวกชังชาติ ส่วนพวกคลั่งชาติจะไม่มีพิษภัย
หลากหลายประเด็นพอให้เห็น คนมียศสูงใหญ่โต ในบ้านเมืองนี้ ทำผิดเป็นถูก ผู้คนพากันยกย่องเป็นคนดี ซึ่งมองแต่ด้านเดียว คงมีอีกด้านที่มองไม่เห็นในความมืดบอดในจิตใจผู้นำ ที่หลงอำนาจจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่รับรู้ความเป็นจริงในสังคม
สังคมประเทศชาติ จะหาความเจริญไม่ได้ ถ้ามีผู้นำไร้มโนสำนึกที่ดีต่อภาคประชาชน ต่างเดือดร้อนแสนสาหัสทุกหย่อมหญ้า เพราะปิดภาคธุรกิจ ทุกประเภทเช่นนี้ คนจะอดตาย แต่จะไม่ตายเพราะติดเชื้อ รัฐบาลไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรก่อน หลัง เพราะ วันๆได้แต่นั่งกอดเก้าอี้ ทุกอย่างมันล้มเหลวไปหมดแล้ว ไม่มียุคใด เท่ายุคนี้ ที่ใช้บุคลากรทางการแพทย์ เป็นการเดินเกมส์ เพื่อความชอบธรรมแก่ตนเอง วันนี้เชื้อไวรัส มันทรงตัวในการแพร่ระบาดกระจายไปทั่วประเทศ เด็กดอย เด็กป่า ก็ติด บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่ ศบค. เล็ก ใหญ่ได้แต่นั่งหลับตาฝัน หลักคำนวณ ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่า ปิดประเทศ ปิดธุรกิจทุกชนิด ทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น เพราะ นี่คือรัฐราชการ
บรรพบุรุษสอนไว้ว่า ห้ามยกมือไหว้คนชั่ว คนเลว คนคดโกง คนทุจริตคอรัปชั่น โกงกิน และพวกพาลีครองเมือง อย่าได้ยกมือไหว้เด็ดขาด มันจะติดเป็นความอัปมงคล แม้ล้างอ่างน้ำมนต์ 3 โอ่ง ก็ยังล้างอัปมงคลไปไม่ได้
โปร่ง พญาไม้