“นายอำเภอภูสิงห์”สั่งปิดธารน้ำไหลน้ำตกห้วยติ๊กชู หลังเกิดเหตุคลิป 3 โจ๋ รุมกระทืบวัยรุ่นชายว่อนโซเซียล
1 min readศรีสะเกษ – นายอำเภอภูสิงห์สั่งปิดธารน้ำไหลน้ำตกห้วยติ๊กชู พร้อมประสาน หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ห้วยศาลาร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคลิปภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นชาย 3 คน ยกพวกรุมทำร้ายวัยรุ่นชาย 1 คน โดยมีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งคอยกอดปกป้องตัวผู้ชายที่กำลังถูกรุมทำร้ายเอาไว้ โดยหญิงสาวได้กรีดร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นได้พากันเตะต่อยและถีบอย่างไม่ยั้งอย่างเมามัน ระหว่างนั้นได้มีเพื่อนชายของกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังทำร้าย 2 หนุ่มสาววัยรุ่นวิ่งเข้าไปห้ามปราม แต่กลุ่มวัยรุ่นชาย 3 คนก็ยังไม่ยอมหยุด ได้รุมทำร้ายจนพอใจแล้วกลุ่มวัยรุ่นได้สลายตัวไป โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นที่บริเวณโขดหิน กลางธารน้ำไหล ภายในน้ำตกห้วยตึ๊กชู ม.6 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อเวลาประมาณ 17.40 น.ของวันที่ 2 ก.ย.64 ที่ผ่านมา และมีการเผยแพร่คลิปนี้ทางสื่อโชเชี่ยลอย่างแพร่หลาย มีผู้เข้าชมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ธารน้ำไหล น้ำตกห้วยติ๊กชู หมู่ 6 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เมื่อไปถึงพบว่ามีบรรดานักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งกำลังพากันเล่นน้ำและนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ริมธารน้ำไหล ซึ่งเป็นธารน้ำไหลที่ใสสะอาด ธรรมชาติสวยงาม โดยมีนายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา พร้อมด้วย นายบุญมี เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา นายสรวิษฐ์ ละออใสย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านโอปังโกว์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุ นำคณะเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันได้มีนางสาวต้น (นามสมมุติ) หญิงสาววัยรุ่นที่โดนกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย นำคณะเจ้าหน้าที่ไปดูที่เกิดเหตุ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บนโขดหินริมธารน้ำไหลซึ่งขณะนั้นมีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งพักผ่อนรับประทานอาหารอยู่
นางสาวต้น เล่าว่า วันเกิดเหตุ เป็นเวลาประมาณ 17.40 น.ของวันที่ 2 ก.ย.64 ขณะที่ตนพร้อมด้วยเพื่อนชายรุ่นน้องได้พากันมาเที่ยวชมความสวยงามของธารน้ำไหลแห่งนี้ ต่อมาได้มีอดีตเพื่อนชายคนสนิทของตนมาที่เกิดเหตุและได้เรียกตนเข้าไปหาพร้อมถามว่ามากับใคร ตนก็ได้บอกไปว่ามากับน้องชาย จากนั้น ตนได้เข้าไปนั่งเล่นชมธารน้ำไหลกับเพื่อนชายรุ่นน้อง ต่อมาไม่ถึง 5 นาที อดีตเพื่อนชายคนสนิทกับเพื่อนรวม 3 คนก็ได้เข้ามารุมทำร้ายเพื่อนรุ่นน้องที่มากับตน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการไม่ถูกต้องที่มารุมทำร้ายเพื่อนรุ่นน้องที่มากับตน ดังนั้นตนจึงได้เข้าไปกอดเพื่อนรุ่นน้องเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้โดนทำร้าย ทำให้ตนโดนรุมทำร้ายพร้อมกับเพื่อนชายรุ่นน้องที่มาด้วยกัน และต่อมาได้มีเพื่อนชาย 2 คน ของอดีตเพื่อนชายคนสนิทได้เข้ามาดึงเอากลุ่มอดีตเพื่อนชายคนสนิทออกไป โดยได้แยกย้ายกันออกไป ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง และที่นิ้วมือซึ่งเป็นนิ้วกลางด้านซ้ายหัก แพทย์ รพ.ภูสิงห์ต้องใส่เฝือกเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนรุ่นน้องที่โดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บเลือดกระจายเต็มปากและบอบช้ำตามร่างกายหลายแห่งซึ่งได้ไปพบแพทย์ รพ.ภูสิงห์ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาพยาบาลเช่นกัน
นางสาวต้น เล่าต่อไปว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปทำการจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทำร้ายตนมาเจรจากันที่ สภ.ภูสิงห์ และได้มีการประนีประนอมยอมความกันโดยกลุ่มที่ทำร้ายตนได้ยอมชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้ตนจำนวน 12,000 บาทเพื่อให้เลิกแล้วต่อกัน ส่วนเพื่อนรุ่นน้องที่โดนทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บนั้น ได้ไปเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
นายสรวิษฐ์ ละออใสย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านโอปังโกว์ กล่าวว่า ที่บริเวณนี้เป็นพลาญหินซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งโดยรอบบริเวณจะมีแปลงเกษตรอยู่ยังไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ว่ายังคงมีความสวยงามเป็นอย่างมากในเรื่องของน้ำตก ในเรื่องของธารน้ำ ที่ไหลลงมาจากเทือกภูเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งทางฝ่ายปกครองก็ยังไม่ได้เข้ามาดูแลเต็มที่ เพราะว่ารอบข้างจะเป็นแปลงเกษตรของชาวบ้าน จากเหตุการณ์วัยรุ่นรุมทำร้ายกันที่เกิดขึ้น ตนได้จัดชุด ชรบ.มาดูแลรักษาความเรียบร้อย ตั้งแต่เวลา 16:00 น. ถึงเวลา 19:00 น. ทุกวัน ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวบางกลุ่มยังไม่กลับ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นส่วนมากแล้วจะเกิดในช่วงค่ำช่วงที่มีคนน้อยถ้ามีนักท่องเที่ยวประมาณ 10 – 20 คนก็จะไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติขึ้นมา ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ขึ้น ผู้ที่ถูกทำร้ายได้มาแจ้งให้ตนทราบ ซึ่งตนได้ให้ไปรักษาตัวที่ รพ.ภูสิงห์และให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายบุญมี เสนคราม กำนันตำบลไพรพัฒนา กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 แล้ว ตนได้รายงานเรื่องนี้ให้นายอำเภอภูสิงห์ได้รับทราบซึ่งได้มีการพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นมาอีก และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นนายอำเภอภูสิงห์จึงได้สั่งการให้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นการชั่วคราว เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายแล้ว จึงจะได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมที่น้ำตกแห่งนี้ได้อีกต่อไป
ข่าว/ภาพ บุญทัน ธุศรีวรรณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดศรีสะเกษ