ผวจ.อุดรฯ มอบรางวัลอำเภอท้าทายฉีดวัคซีนเกิน 50 เปอร์เซ็นต์
1 min readผวจ.อุดรฯ มอบรางวัลอำเภอท้าทายฉีดวัคซีนเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ หญิงตั้งครรภ์ที่มารับวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก เผยอยากมีภูมิคุ้มกันป้องกันโควิดให้ตนเองกับลูกในท้อง
วันที่ 16 กันยายน 2564 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี ,นายแพทย์ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นพ.สาธารณสุข จ.อุดรธานี และ นายอุเทน หาแก้ว รอง นพ.สาธารณสุข จ.อุดรธานี มอบเงินรางวัล 30,000 หมื่นบาท ให้อำเภอที่ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้กำหนดเงินรางวัลสำหรับอำเภอท้าทายที่ผ่านเกณฑ์ และอำเภอที่มีผลการฉีดวัคซีนสูงสุด รางวัลละ 30,000 บาท โดยมีอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอสร้างคอม อำเภอพิบูลย์รักษ์ อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และอำเภอหนองแสง รวมเป็นเงิน 150,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ โดยมีนายอำเภอเป็นตัวแทนรับมอบ
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ จังหวัดมีการปรับแผนฉีดวัคซีน ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข โดยมุ้งเน้นที่ที่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรค และคนท้อง โดยมีเป้าหมายระยะสั้น ในแต่ละอำเภอให้มีเป้าหมายในแต่ละกลุ่มให้ได้มากเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องทั้ง 3 กลุ่ม เพราะเมื่อมีการติดเชื้อ จะมีอาการรุนแรงมากกว่าคนอื่น จึงได้เร่งรัดมากกว่ากลุ่มอื่น โดยกำหนดเป้าหมายไว้ว่าอำเภอไหนที่บริการฉีดครบ 50 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละกลุ่ม ก็จะมีรางวัลให้ ซึ่งมี 5 อำเภอที่ได้รับ พิเศษคืออำเภอเมืองอุดรธานี ขาดไปนิดหน่อย แต่นายแพทย์สาธารณสุขแจ้งว่าควรจะได้รับรางวัล เพราะว่ามีผลการดำเนินงานในปริมาณที่สูงมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ต่างๆ
“เนื่องจากประชากรหนาแน่น สำหรับการขยายผลได้มีการประเมิน เร่งรัดทั้ง 20 อำเภอของจังหวัดอุดรธานี อำเภอที่ไม่ได้รับรางวัลในวันนี้ ไม่ใช่ว่าทำไม่ดี แต่มีตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ว่าอาจจะมีข้อจำกัด ในระยะที่ผ่านมาในบางพื้นที่ยังทำให้ไม่ถึงเป้าในระยะเวลาอันสั้น ฉะนั้นจึงจะมีการเร่งรัดให้ดำเนินการต่อให้เร็วที่สุด วัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนในวงกว้างที่สุด ให้ภูมิคุ้มกันส่วนตัว และถ้าจำนวนมากก็จะเป็นไปตามแผนภูมิคุ้มกันหมู่ในพี่น้องชาวอุดรธานี ซึ่งจังหวัดอุดรธานี ฉีดวัคซีนได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์”
ส่วนที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โรงพยาบาลอุดรธานี ได้ฉีดวัคซีนให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ โดยมีผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ โดย น.ส.นำทิพย์ เพียงเกษ อายุ 31ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 19 ต.ผาสุก อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี พนักงานบริษัทเอก บอกว่า ตั้งครรภ์ 8 เดือน และไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลอุดรธานี และลงทะเบียนฉีดวัคซีนไว้ และบ่ายนี้หมอได้โทรตามให้มาฉีด วัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก ไม่มีความกังวล เพราะตั้งใจจะฉีดอยู่แล้ว และมีการลงชื่อฉีดไว้ที่บริษัท แต่วัคซีนยังไม่มา ซึ่งครั้งแรกรู้สึกกังวล ไม่กล้า ยังลังเลอยู่ แต่พอเห็นเพื่อนๆ ฉีดแล้วไม่เป็นอะไร เลยตัดสินใจฉีด เพราะถ้าติดแล้วจะส่งผลรุนแรง และส่งผลไปถึงลูก
น.ส.นาถอนงค์ วันธงไชย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/2 หมู่ 14 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนหนองไฮสะอาด ต.สุ่มเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี บอกว่า ตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน เป็นเพศชาย ซึ่งเป็นลูกคนแรก มาฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรก รู้สึกดีใจที่ได้ฉีดวัคซีนจะได้มีภูมิคุ้มกัน เพราะหญิงตั้งครรภ์จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ นอกจากจะเสี่ยงกับตัวเองแล้ว ยังเสี่ยงกับลูกที่อยู่ในครรภ์ด้วย ถ้าเราได้รับภูมิคุ้มกัน ลูกเราก็ได้รับภูมิคุ้มกันไปด้วย ก่อนจะมาฉีดวัคซีนก็รู้สึกวิตกกังวล แต่เพราะการระบาดของโรคเข้ามาเรื่อยๆ วัคซีนทางเลือกมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่าปลอดภัยทั้งตัวเราและลูกในครรภ์
“อยากเชิญชวนแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ เพราะเรามีลูกอยู่ในครรภ์ ถ้าเราป่วยก็จะส่งผลต่อลูกด้วย แต่ถ้าเราได้รับวัคซีน ก็จะได้รับภูมิคุ้มกัน ลูกเราก็ได้รับด้วย จะปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น”
ภาพ/ข่าว นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี