นนทบุรี สะเทือนใจรอวัคซีนจนติดโควิคตาย สุดท้ายมีจดหมายด่วนที่สุดมา 2 ฉบับให้ไปฉีด (มีคลิป)
1 min readจากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nattapong Ho ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 มากว่า 1 เดือน แต่กลับมีจดหมายจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่งด่วน ขอให้รีบไปฉีดวัคซีน ซึ่งรายชื่อดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว ครั้งแรกส่งมาไม่นานหลังเพิ่งเสียชีวิต ทางครอบครัวก็ไม่ได้คิดอะไร แต่กลับส่งฉบับที่สองมาตอกย้ำความชอกช้ำอีก ทั้งๆที่ตอนยังมีชีวิตต้องรอๆๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวกำลังเศร้า รวมถึงมีญาติอีกคนที่กำลังซึมเศร้าอย่างหนัก สะท้อนความผิดพลาดของระบบราชการ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในครอบครัวของคนที่สูญเสียชีวิตจากโควิด-19 มาเป็นเวลาเดือนกว่าๆ จะรู้สึกอย่างไร เมื่อเดินทางกลับจากที่ทำงาน จนมาถึงบ้านแล้วเจอจดหมายจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ให้ผู้เสียชีวิตไปฉีดวัคซีนเป็นฉบับที่สอง ย้ำนะครับ…นี่คือฉบับที่สองแล้ว
หลายคนอาจจะบอกว่าจริงๆ เรื่องนี้มันเล็กนิดเดียวนะ แค่เราไปแจ้งทางสำนักงานก็น่าจะจบแล้ว แต่คุณรู้ไหมว่าสภาวะหลังจากครอบครัวเราเจอโรคบ้าบอนี้ มันทำให้บ้านเราเปลี่ยนเป็นอย่างไร คนในบ้านเรารู้สึกเจ็บปวดไปจนถึงตรอมใจกันมาตลอดเป็นเวลานับเดือนจนถึงปัจจุบัน
ขออนุญาตลงรายละเอียดสภาวะครอบครัวคือ คุณอาอีกคนของเราที่เป็นผู้สูงอายุที่เป็นพี่น้องกับผู้เสียชีวิตนอนไม่หลับ บางวันก็ซึมเศร้าไปจนถึงร้องไห้ พูดถึงคุณอาที่เสียไปแบบวันเว้นวัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราต้องพยายามปรับสภาพความสมดุลทางอารมณ์และจิตใจทุกคนในบ้าน ช่วงเวลานี้เราพยายามฟื้นฟูและปรับตัว เพื่อมองไปข้างหน้าและพยายามหาหนทางดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอดในยุคสภาวะ “ประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง” แต่แล้วเราก็มาเจอการบริหารจัดการที่ฉุดรั้งความรู้สึกทางจิตใจของเรา และรวมไปถึงคนในครอบครัว จากภาครัฐ เราขอย้ำนะครับ นี่ไม่ใช่เรื่องสะเพร่าหรือเรื่องล้อเล่น กับการที่คุณประกาศว่าจะทำการบูรณาการในระบบราชการ 4.0 ให้มีคุณภาพตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สุขประชาชน ซึ่งก่อนที่คุณจะทำการส่งจดหมายฉบับนี้ และถ้าทางกระทรวงสาธารณสุขทำงานแบบนี้ เราในฐานะประชาชนตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็ได้แต่วิงวอนโปรดช่วยใส่ใจในระบบบัญชีจากระบบ “ทะเบียนราษฎร์ ” จากกรมการปกครอง ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีการอัพเดตสัดส่วนไปจนถึงบัญชีรายชื่อของผู้เสียชีวิตตลอดทุกวัน เราเชื่อว่าการที่สำนักงานสาธาณสุขจังหวัดนนทบุรี ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถลงรายละเอียดกับงานด้วยการตรวจสอบข้อมูลทาง “ทะเบียนราษฎร์”ได้อย่างไม่ยาก เพียงแค่คุณรักและใส่ใจประชาชน และได้โปรดช่วยทำงานด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
ขอเรียนไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบงานนี้ได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อให้เรียบร้อยก่อนที่จะทำงานในรูปแบบนี้อีก ท้ายที่สุดนี้ ได้แต่ว่าหวังว่าจดหมายนี้จะเป็นฉบับสุดท้ายที่เราจะได้เจอ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 18 ก.ย.64 ผู้สื่อเดินทางไปพบกับนายณัฐพงษ์ หรือต้อง โห้เฉื่อย อายุ 36 ปี เจ้าของโพสต์ที่ระบายข้อความอันยาวเหยียดในโลกออนไลน์ โดยเปิดเผยความในใจที่อัดอั้นหลังสูญเสีย น.ส.นิภาพรรณ โห้เฉื่อย อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นคุณอา จากการติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 64 โดยยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ทั้งๆที่รอๆๆมานานว่าจะได้ฉีดกับคนอื่นๆ แต่พอสิ้นคุณอากับมี จ.ม. ด่วนที่สุดมาให้ไปฉีดวัคซีน แบบนี้คนในครอบครัวจะรู สึกยังงัย
นายนัฐพงษ์ กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้คนที่บ้านป่วย covid ทั้งบ้านแล้วเข้าโรงพยาบาลเสียชีวิตไป 1 คนเมื่อเดือนกรกฎาคมวันที่ 31 ปรากฏว่ามีหนังสือฉบับแรก ลงนามไว้ว่าวันที่ 19 สิงหาคมให้ไปฉีดวัคซีน โดยจั่วหัวว่าด่วนที่สุด ซึ่งคนในครอบครัวพยายามจะลงทะเบียนเพื่อให้รับวัคซีนให้ไวที่สุด แต่วันที่ได้คือวันที่อยู่โรงพยาบาล และเสียชีวิตไปเรียบร้อย พอเสียชีวิตก็ส่งมาให้ไปฉีดวันที่ 28 สิงหาคม ตนคิดว่าระบบมันคงยังไม่ได้รันเพราะคนเสียชีวิตและคนป่วยเยอะ ก็ปล่อยผ่านไปแต่ปรากฏว่าเมื่อวานกลับมาจากที่ทำงาน ที่บ้านนำจดหมายมาให้ดูทุกคนส่ายหัวแล้วไม่พอใจ เพราะว่าตลอดเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาสภาพที่บ้านไม่ปกติ เจ็บปวดและเสียใจกับโรคโควิด มาตลอด ต่อมามีจดหมายฉบับที่ 2 เป็นชื่อผู้เสียชีวิตคนเดิมส่งมามีการเซ็นลงนามว่าวันที่ 13 กันยายน ในจดหมาย Copy มาวางแต่เปลี่ยนแค่วันที่บอกว่าให้ไปฉีดวัคซีนตามที่แจ้งให้เร็วที่สุด ตนพูดไม่ถูกเสียชีวิตไปประมาณเดือนกว่าแล้ว กลับมีจดหมายแบบนี้ส่งมา ก็เลยมาคิดใหม่ว่าคงพึ่งพาอะไรไม่ได้ต้องพึ่งพาตัวเอง หลังจากได้จดหมายตนย้อนกลับไปคิดถึงวันนั้น ทุกคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กทุกวันนี้ตอนนอนไม่หลับ (น้ำตาซึม) พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ตนเลยโพสต์ที่สาธารณะเพราะว่ามันไม่สมควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้ากระทรวงสาธารณสุขใส่ใจนิดนึงเข้าไปดูในทะเบียนราษฎร์ทุกครั้งที่มีการแจ้งตายโรงพยาบาลเป็นคนออกใบมรณะที่อำเภอ คิดว่าทุกอย่างก็ต้องจบปรากฏว่ายังมีจดหมายแบบนี้ส่งมาอยู่ และยังส่งจดหมายฉบับนี้มาเหมือนมาตอกย้ำ เจ้าหน้าที่รัฐควรจะซิงค์ข้อมูลกันเพราะว่ามันไม่ได้ยากเลย คุณไม่ได้เห็นหัวประชาชน บางคนอาจจะมองว่าเป็นจดหมายแค่ฉบับเดียวแต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกบางคนไม่เจอกับตัวไม่รู้ พอจะทำใจได้กลับมาเจอจดหมายแบบนี้ อีกเป็นฉบับที่ 2 ตนรู้สึกสิ้นหวังกับประเทศนี้ จากการบริหารวัคซีนของรัฐบาลการดูแลสวัสดิการประชาชน ทุกวันนี้ต้องเยียวยาจิตใจกันเอง นายนัฐพงษ์ กล่าวในท้ายสุด