นนทบุรี คืบหน้า สุนัข 3 ตัวติดใบกระท่อม สพ.ญ.ภัทรนันท์เผยมีโอกาสได้รับพิษจากกระท่อม (มีคลิป)
1 min readจากกรณีนางน้ำฝน สุขประเสริฐ อายุ 46 อาชีพ แม่ค้าออนไลน์เพจบ้านน้ำหนึ่ง และนายหนึ่ง สุขประเสริฐ อายุ41 อาชีพขี่จยย.รับจ้าง สามีภรรยา เจ้าของบ้านว่ามีสุนัข 3 ตัวติดใบกระท่อมงอมแงม ถ้าวันไหนไม่ได้กินจะเกิดอาการหงุดหงิดเดินไปเดินมาในบ้านแต่ถ้าวันไหนเจ้าของให้กินใบกระท่อมจะดีดอารมณ์ดีคึกคักวิ่งเล่นไปมาในบ้าน
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่สถานพยาบาลสัตว์เอื้ออังกูร เลขที่ 124/11 ม.6 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นสถานพยาบาลสัตว์ครบวงจรรักษาสัตว์ ฉีดวัคซีน ตรวจเลือด ผ่าคลอด ทันตกรรม กำจัดเห็บหมัดและฝากเลี้ยงบริการนอกสถานที่ เพื่อสอบถามสพ.ญ.ภัทรนันท์ สัจจารมณ์ ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ชั้น 1 กรณีที่สุนัข 3 ตัวที่ติดใบกระท่อมว่ามีอันตรายกับสุนัขหรือไม่
ทางด้านสพ.ญ.ภัทรนันท์ กล่าวว่าสำหรับคนตอนนี้ไม่มีปัญหาให้ใช้ในทางการแพทย์แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงทางสัตว์แพทย์สภายังไม่มีการให้ข้อมูลถึงการใช้ใบกระท่อมกับสัตว์ ส่วนการวิจัยของเมืองนอกหรือการรักษาของเมืองนอกมีการใช้ใบกระท่อมในการรักษาจริงโดยสรรพคุณของใบกระท่อมสามารถช่วยลดอาการไออย่างรุนแรงและช่วยของการลดอาการป่วยหรืออักเสพ แต่ต้องอยู่ในการแนะนำของแพทย์ ซึ่งทางสุนัขเราจะให้สารสกัดแปรรูปจากใบกระท่อมประมาณ 5 มิลลิกรัมต่อกิโล ซึ่งถ้าเกิดสุนัขได้รับในปริมาณมากๆก็จะทำให้เกิดอาการง่วงซึม อาเจียน ท้องเสีย และมีอาการชักได้ ส่วนประเทศไทยยังคงต้องศึกษาเรื่องของการนำกระท่อมมาแปรรูปเป็นยาเพื่อที่จะสามารถกำหนดมิลลิกรัมของตัวใบกระท่อมเองได้
ส่วนเรื่องของภาพข่าวที่มีการโพสต์ลงในสื่อออนไลน์ว่ามีสุนัขกินใบกระท่อมส่วนตัวคิดว่าทางสุนัขน่าจะติดใบกระท่อมไปแล้วเพราะถ้าต้องกินทุกวันหากไม่กินจะมีอาการหงุดหงิดก็ควรให้อยู่ในการดูแลของแพทย์มากกว่า เพราะเรายังไม่สามารถควบคุมปริมาณในการให้ใบกระท่อมของเจ้าของได้และการที่เจ้าของให้กินไปทั้งใบซึ่งอาจมีโอกาสที่จะได้รับพิษจากใบกระท่อมได้เช่น จะมีอาการมึนเมาเวียนหัว ซึ่งคนกินใบกระท่อมบ่อยๆก็จะทราบดี ถ้าไม่อยากให้อาการแบบนี้เกิดขึ้นกับสุนัขก็แนะนำให้แปรรูปก่อน ถ้าได้รับมากไปก็จะมีการเสพติด
สุดท้ายแล้วฝากถึงเจ้าของสุนัขให้หยุดให้กินใบกระท่อมก่อนเพราะว่ายังไม่มีการทำวิจัยซึ่งผลเสียมันก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแต่แนะนำว่าให้อยู่ในการดูแลของแพทย์จะดีกว่า
ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวนนทบุรี