น้ำตาไหลทั้งคนทั้งช้าง! “พังโย” ถึงบ้านแล้วหลังพลัดพรากเจ้าของ 18 ปี!
1 min readสุรินทร์-พังโยถึงบ้านแล้ว หลังต่อสู้มา 18 ปี น้ำตาไหลทั้งคนทั้งช้าง ใช้เวลาเดินทาง 25 ชั่วโมงเต็ม สู่อ้อมอกครอบครัว หลังช้างได้พักหายเหนื่อยแล้ว จะหาวันนำช้างไปไหว้บอกกล่าว อนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี ศรีรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ต่อไป
พังโย” กลับถึงบ้านที่สุรินทร์แล้ววันนี้ หลังศาลฎีกาตัดสินให้เจ้าของชนะคดี ทันทีที่มาถึงเจ้าของและควาญ และญาติที่มารอรับต่างดีใจเป็นอย่างมา ถึงกับน้ำตาไหลทั้งคนและช้าง เจ้าของไม่เคยท้อแม้ตามหาและสู้คดีมาร่วม 18 ปี ให้ช้างเลิกทำงาน แต่จะนำไปสอนให้ความรู้เด็กและเยาวชน โดยให้พักอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์
จากกรณีที่นายวัน เรียงเงิน ผู้รับมอบอำนาจมาจากนายชอบ เรียงเงิน เจ้าของช้างพังโย ซึ่งถูกคนร้ายขโมยไปเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2546 เจ้าของได้ออกตามหามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทราบว่า พังโย ถูกมาขายให้ปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต จึงได้นำเอกสารหลักฐานไปตรวจสอบที่ปางช้าง ซึ่งทางเจ้าของแจ้งว่าได้ซื้อมาอย่างถูกต้องในราคา 1.4 ล้านบาท จึงไม่ยินยอมที่จะคืนช้างเชือกดังกล่าวให้ ต่อมา ในปี 2561 ทางเจ้าของช้างได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ได้มีการต่อสู้กันมาถึงจนถึงศาลฎีกา จนเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา โดยตัดสินให้เจ้าของช้างชนะคดีและได้รับช้างคืน
ต่อมาในวันที่ (23 ก.ย.)ที่ผ่านมา นายวัน เรียงเงิน ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของช้าง ได้เดินทางมายังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต เพื่อขอหนังสือรับรองในการนำช้าง “พังโย” เดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ หลังจากปศุสัตว์อำเภอเขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ได้ออกหนังสือรับรองให้สามารถนำช้างเข้าไปยังพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ได้ ก่อนที่นายวัน จะไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ฉลอง ไว้เป็นหลักฐานในการนำช้างออกจากปางเดินทางไป จ.สุรินทร์ ในช่วงเย็นของวันที่ 23 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ 24 กันยายน 2564 เวลา 19.30 น. พังโย อายุ 72 ปี ได้เดินทางกลับถึงจังหวัดสุรินทร์แล้ว โดยมีนายวัน เรียงเงิน พร้อมด้วยนายแก้ว บุตรชาติ อายุ 88 ปีและควาญช้าง เดินทางมาพร้อมกับพังโย โดยใช้รถบรรทุกช้างเดินทางจากภูเก็ต มาถึงจังหวัดสุรินทร์ ใช้เวลาเดินทางนานถึง 25 ชั่วโมง
ทันทีที่มาถึงได้นำพังโย เข้าไปพักไว้ที่โรงช้างภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ โดยมีบรรดาญาติๆ และควาญช้าง ต่างมาคอยต้อนรับกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ โดยพังโย ไม่ดื้อและเชื่องเป็นอย่างมาก มีสุขภาพแข็งแรง เนื่องจากได้รับการดูแลเอาใจใส่จากปางช้างที่รับฝากพังโยไว้ เป็นอย่างดี ก่อนลงจากรถบรรทุกได้มีการจุดธูปและเซ่นไหว้บอกกล่าว เพื่อต้อนรับกลับบ้าน และนำอาหารเป็นสับปะรดมาให้กิน ทันที่ช้างพังโยลงจากรถได้ ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก ทั้งควาญช้าง เจ้าของช้างและผู้ที่มาคอยต้อนรับต่างดีใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนายวันถึงกับน้ำตาไหล รวมไปถึงช้างพังโยก็น้ำตาไหลออกมาด้วย เนื่องจากพลัดพรากกันนานถึง 18 ปี และหลังจากเมื่อช้างพังโยได้พักหายเหนื่อยแล้ว จะหาวันนำช้างพังโย ไปกราบไหว้บอกกล่าวอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี ศรีรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ต่อไป
โดยต่อจากนี้ไปเจ้าของช้างจะไม่ให้พังโยทำงานแล้ว เนื่องจากอายุมากแล้ว แต่จะนำพังโยไปไว้ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่ จ.สุรินทร์ เพื่อให้เป็นครูช้างในการสอนเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของข้าง เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตช้างต่อไป
นายวัน เรียงเงิน กล่าววว่า ตนดีใจมากที่ได้นำช้างพังโยกลับมาถึงบ้าน หลังจากกันไปนานถึง 18 ปี มีความรู้สึกตื้นตันใจ เขาจำเราได้ ไปจับไปอะไรเขาก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไปเอาเขามาโดยไม่ต้องขึ้นขี่แค่ใช้เชือกผูกจูงเขามา เขารู้จักเรา เพียงแค่ความใกล้ชิดอาจจะห่างเหินกันไปนิดหน่อย ซึ่ง 18 ปี ที่ตนตามมานานมาก พอได้ช้างกลับมาก็ดีใจ ขอขอบคุณชาวสุรินทร์และชาวช้าง ร่วมถึงผู้ที่ให้การช่วยเหลือ ที่ให้กำลังใจตนในการต่อสู้จนสามารถนำช้างกลับมาคืน ตนไปแต่ตัวไปด้วยใจใครจะว่าตนอย่างไรตนก็ไปๆจนเจอช้าง แต่เอาไม่ได้ ตอนแรกตนเจอแต่เอาไม่ได้เพราะช้างมันอยู่ในป่า เลยไปกล้าไปเอา คุ้มกับการรอคอยมา 18 ปี ตอนนี้จะให้ช้างได้พักหายเหนื่อยก่อน แล้วจะหาวันนำช้างพังโยไปไหว้บอกกล่าว อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ การเดินทางในครั้งนี้ใช้เวลาถึง 25 ชั่วโมงเต็ม ค่อยๆขับมาเหนื่อยก็พัก ขอให้ปลอดภัย โดยพังโยเป็นช้างที่เชื่องไม่ดุร้าย ใครจะจับอะไรก็ได้หมดเลย ถือว่าเป็นช้างที่มีอายุมากแล้วรวมอายุตอนนี้อยู่ที่ 72 ปีแล้ว
ภาพ/ข่าว ทีมข่าวจังหวัดสุรินทร์