ทหารพัฒนาภาค 4 เตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในสถานการณ์อุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบ
1 min readที่สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย พลตรี กฤษณ์ จันทรนิยม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดให้มีการตรวจความพร้อมหน่วยบรรเทาสาธารณภัย โดยมีการบูรณาการร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ประกอบด้วย โรงพยาบาล ป่าบอน, เทศบาลตำบลป่าบอน, องค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง, องค์การบริหาร ส่วนตำบลป่าบอน, พัทลุงการกุศลมูลนิธิ เขตแม่ขรี เพื่อเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในสถานการณ์อุทกภัย ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบ
โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ของ สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดกำลังพลพร้อมเครื่องมือ เช่น รถกู้ภัย ขนาดใหญ่ รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถประปาสนาม รถครัวสนาม รถอัดอากาศ รถช่วยเหลือผู้ประสบภัย รถตรวจการณ์ เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ เบาะลม รถสะพานเครื่องหมุนมั่น MFB โดยยังมีชุดกู้ภัยเคลื่อนที่เร็วพร้อมให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยได้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ โดยมีหน่วยขึ้นตรง รวม 7 หน่วย ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41ฯ ตั้งอยู่ที่ จ.นราธิวาส ,หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42ฯ ตั้งอยู่ที่ จ.ยะลา ,หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 43ฯ รับผิดชอบ จ.พัทลุง จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราช ,หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44ฯ ตั้งอยู่ที่ จ.ปัตตานี ,หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45ฯ รับผิดชอบ จ.สตูล จ.กระบี่ จ.ตรัง จ.พังงา จ.ภูเก็ต และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46ฯ รับผิดชอบ จ.ชุมพร, จ.ระนอง และ จ.สุราษฎร์ธานี
ตามสั่งการของ พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มอบหมายให้ พลเอก จีรัชญุ์ บุญชญา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กำชับหน่วยขึ้นตรง ของหน่วยบัญชาการพัฒนา ที่ตั้งอยู่ทั่วทุกภาค ของประเทศไทย จัดเตรียมความพร้อมหน่วยบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในสถานการณ์อุทกภัย ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบ
ในรอบปีที่ผ่านมาสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพ และหน่วยขึ้นตรง ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง และพื้นที่รับผิดชอบ โดยการขนย้ายผู้ประสบอุทกภัย/ ผู้ป่วยติดเตียง/ สัตว์เลี้ยง, แจกจ่ายอาหาร, ยารักษาโรค, น้ำดื่ม, น้ำสะอาด, ถุงยังชีพ, ซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรที่เสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก, เปิดเส้นทางจราจรและ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ประชาชนได้สัญจรไปมาได้สะดวก ตลอดจนเข้าทำการฟื้นฟูภายหลังเมื่อผ่านพ้นเหตุการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายข้อเน้นย้ำสำคัญของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ต้องการให้ทหารต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส