รถเทรเล่อร์ขยี้ลุงวัย 63 เละคาถนน

เมื่อเวลา 07.50 น.วันที่ 10 ต.ค. 64 ร.ต.อ.อนันต์ นามโภชน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเทรเล่อร์เฉี่ยวชนรถ จยย.เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต1ราย เหตุเกิดบนถนนซ่อมสร้าง-345 ม.5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุก่อนขึ้นสะพานปทุมธานี 2 ประมาณ 150 เมตร ในช่องเลนซ้ายสุดพบร่างนฝนายจอมศรี สามารถกิจ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 ม.6 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี สภาพศพสวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น นอนคว่ำหน้าศีรษะยังสวมหมวกกันน็อคคาอยู่ โดยมีร่องรอยล้อรถใหญ่ทับจนไส้แตก ใกล้กันบนฟุตปาทพบรถ จยย.ฮอนด้า สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน กตข-81 ปทุมธานี ล้มคว่ำสภาพพังยับเยิน

ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 500 เมตรพบรถเทรเลอร์ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-1983 ปทุมธานี ท้ายพ่วง หมายเลขทะเบียน 70-2151 ปทุมธานี ซึ่งเป็นรถคู่กรณีจอดอยู่โดยมีนายตรีภพ บุษบรรณ์ อายุ 36 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ คนขับยืนรอให้การอยู่

จากการสอบถามนายตรีภพ บุษบรรณ์ คนขับรถเทรเลอร์ กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุตนมาพร้อมภรรยาและคนงานรวม 5 คน เพื่อจะไปรับสินค้าที่โรงงานแถวปทุมสายใน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนได้ขับแซงรถ จยย.คันดังกล่าว จากนั้นรถ จยย.คู่กรณีก็พยายามแซงเร่งแซงในช่องซ้ายโดยตนไม่รู้ว่ามีการเฉี่ยวชนหรือรถ จยย.ล้มก่อนที่ล้อหลังรถตนจะทับ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารถตนทับคนขับ จยย.จนกระทั่งคนงานที่นั่งมาด้านหลังบอกตนว่ารถเฉี่ยวชนกับ จยย.ตนจึงจอดรถลงมาดูก็พบว่าคนขับเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ

ทางด้าน ร.ต.อ.อนันต์ นามโภชน์ รอง สว.(สอบสวน)ฯกล่าวว่า เบื้องต้นได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุและสอบปากคำพยาน พร้อมจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และจากการสอบถามนางเพลินตา สามารถกิจ ภรรยาผู้เสียชีวิตทราบว่าผู้ตายกำลังขับรถเพื่อมาทำงานที่โรงงานกระดาษแห่งหนึ่งแถวถนนปทุมธานีสายใน และได้ออกมาแต่เช้าจากนั้นไม่นานก็มีตำรวจโทรมาแจ้งว่าสามีตนเกิดอุบัติเหตุจึงมาพร้อมลูกสาวก็พบว่าสามีตนเสียชีวิตแล้ว ส่วนศพมอบให้มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

ภาพ/ข่าว สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม รายงาน