บุกจับนายก อบจ.จันทบุรี – พระครูปลัดฯ ทุจริตเงินสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลฯ กว่า 17 ล้านบาท

ป.ป.ท. ร่วมกับตำรวจ บช.ก. และ ปปป. เปิดยุทธการ “จันทบูร” บุกจับนายก อบจ.จันทบุรี – พระครูปลัดฯ ทุจริตเงินสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลฯ กว่า 17 ล้านบาท

วันนี้ (วันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564) เวลา 06.00 น. สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ท. วันนพ สมจินตนากุล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายพุฒิพงษ์ เลิศสถิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และนายกฤษณ์ กระแสเวส ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปท. เขต 2 นำโดย พ.อ.อ. ไชยพัฒน์ วังศิลาบัตร ผอ.ปปท. เขต 2 นายจักรภพ จันทะวงศ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ พ.ต.ท. ภวิษณ์พร วณิชย์นรานนท์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ นายจักราวุธ ป้อมประยูร นักจัดการงานทั่วไป และกลุ่มงานปราบปรามคดีพิเศษ กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ท. นำโดยนายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มงานปราบปรามคดีพิเศษ นายกิตติพงษ์ ไชยยุทธ์ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ นายพงษ์ศักดิ์ สมแพง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ และนายสุวิชชา อ่อนคล้าย นักสืบสวนสอบสวนปฏิบัติการ ร่วมบูรณาการสนธิกำลังกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ก. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “จันทบูร” นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมกับเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี มาแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ

ทั้งนี้ จากการปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบตัวผู้ร่วมกระทำความผิดพร้อมเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี, นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน, พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือพระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และกรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี และนายเกศสยาม ร่วมดี หจก.สยามช่างบูรพา โดยเป้าหมายสำคัญที่เข้าตรวจค้นในครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 45 และบ้านเลขที่ 8/2 ถ.เทศบาลสาย 3 ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี บ้านพักของนายธนภณ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึง ได้แสดงหมายค้นเข้าตรวจสอบ พบตัวนายธนภณ พักผ่อนอยู่ภายในบ้าน ก่อนจะเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองจันทบุรี ส่วนจุดที่สอง เข้าตรวจค้นกุฏิของพระครูปลัดณัฐดนัย ตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิวารี ถ.พระยาตรัง ต.ท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี พบพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ อยู่ภายในกุฏิดังกล่าว จึงแสดงหมายพร้อมอธิบายข้อกฎหมายให้เข้าใจ ก่อนจะนิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหา

สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อต้นปี 2564 ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ที่ได้รับจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯ เมื่อปี 2552 มาจนถึงปัจจุบัน จึงมีการสืบสวนพร้อมสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ จนพบความผิดปกติเงินงบประมาณสนับสนุนประจำปี 2554-2555 ในส่วนของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ เนื่องจากตรวจสอบเอกสารรายงานงบประมาณจัดจ้างและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องต่างๆ พบตัวเลขเงินที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไม่ตรงกับจำนวนเงินงบประมาณที่เบิกจ่าย จึงแกะรอยสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนพบความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทำผิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีตำแหน่งอยู่ในมูลนิธิฯ โดยการทุจริตดังกล่าวเริ่มต้นจาก นายธนภณ ในฐานะนายก อบจ.จันทบุรี ได้อนุมัติเงินงบประมาณอุดหนุนของปีงบประมาณ 2554 และปีงบประมาณ 2555 รวมจํานวน 30 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี เมื่อได้รับเงินอุดหนุนจํานวนดังกล่าวแล้ว มูลนิธิฯ ได้ว่าจ้าง หจก. สยามช่างบูรพา ก่อสร้างอาคารสํานักงานมูลนิธิฯ เพียง 12.7 ล้านบาทเศษ คงเหลือเงินอีกจํานวน 17.26 ล้านบาทเศษ ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางมูลนิธิฯ ต้องส่งคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี แต่นายธนภณ ในอีกบทบาทหนึ่งยังดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการและเลขานุการของมูลนิธิฯ มีหน้าที่ควบคุมกิจการของมูลนิธิฯ ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิฯ ตามกฎหมาย และทราบข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี กลับไม่ยอมส่งคืนเงินที่เหลือดังกล่าวกลับคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี อีกทั้งต่อมายังให้นายภูวนาถ อดีต ผอ.กองแผน และงบประมาณ อบจ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ของ อบจ.จันทบุรี มาจัดทําเอกสารให้กับมูลนิธิฯ ด้วยการทําสัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้าง 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำเอกสารเท็จขึ้นมา โดยมีพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิกมูลนิธิ กับนายเกศสยาม ร่วมกระทำความผิดด้วย จากนั้นจึงนำสัญญาเท็จที่ทำขึ้นมาไปแนบประกอบรายงานผลการดําเนินการให้อบจ.จันทบุรี เพื่ออำพรางปกปิดการทุจริต นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าที่ผ่านมามูลนิธิดังกล่าวยังไม่เคยรายงานข้อมูลการดําเนินงานข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมใหญ่สามัญประจําปีอีกด้วย

สำหรับพุทธมณฑลประจำจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสำหรับปฏิบัติธรรมต่างๆ มากมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบเงินงบประมาณที่มูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ได้รับจากทาง อบจ.จันทบุรี เฉพาะเพียงจากวันที่ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ถึงปี 2556 ช่วงระยะเวลาเพียงประมาณ 5 ปี พบว่าได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 106 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบว่านอกเหนือจากโครงการดังกล่าวที่ถูกทุจริตแล้วยังมีการทุจริตงบประมาณโครงการอื่น ๆ อีกหรือไม่

ข้อมูลจาก: fb.prpacc