“ส.ส. เต้”โดนเพิ่มอีก 1 ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังมาพบพนักงานสอบสวนคดีหมิ่น”ศักดิ์สยาม”

ผู้บังคับการตำรวจภูธรบุรีรัมย์ แจงกรณี ที่ต้องออกหมายจับ สส.เต้ มงคลกิตติ์ เพราะออกหมายเรียกถึง 4 ครั้ง แต่ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน ทั้งที่เดินทางมาร่วมงานลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ ยืนยันทำตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ ไม่มีการกลั่นแกล้ง พร้อมกับแจ้งข้อหาเพิ่มฐานหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังพบข้อความสัมภาษณ์กับสื่อว่า”ทั้งตำรวจและศาลเป็นลูกน้องผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังการเมือง”

วันที่ 21 ต.ค.64 กรณีนายทิวา การกระสัง ผู้รับมอบอำนาจของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แจ้งความร้องทุกข์กับนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ต่อ พ.ต.ท.ไชยา สระโสม สารวัตร(สอบสวน)สภ.เมือง บุรีรัมย์ ให้เอาผิดฐาน“โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ทงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่นำจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา”จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับ ส.ส.เต้ และวันที่ 21 ต.ค.ได้เดินทางมามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนที่จังหวัดบุรีรัมย์

ต่อมา พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ตั้งโต๊ะแถลง หลังจากนายมงคลกิตต์ อ้างว่าหมายเรียกไม่ถูกต้อง โดยพล.ต.ต.รุทธพล ระบุว่า การทำงานของตำรวจทำไปตามขั้นตอนของกฎหมายหลังจากพนักงานสอบสวน รับแจ้งความจากนายทิวา การกระสัง เมื่อวันที่ 23 เมษายน 64 ตำรวจ ได้ออกหมายเรียกในวันเดียวกัน แต่เกิดความผิดพลาดที่พนักงานสอบสวน เอาแบบฟอร์มการออกหมายเรียกฉบับเก่าในคดีอื่นมาเรียบเรียง แต่ไม่ได้ลบวันที่ ที่ระบุเป็นวันที่ 10 เมษายน 64 จึงทำการยกเลิกหมายเรียกครั้งแรกไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พ.ค.64 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไป ถือเป็นครั้งที่ 1 ระบุให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 5 พ.ค.แต่ ส.ส.เต้ ขอเลื่อนการให้ปากคำ วันที่ 8 สิงหาคม พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกอีกครั้ง ให้มาพบพนักงานสอบสวน ในวันที่ 17 สิงหาคม 64 โดยส่งหมายไปที่ สน.บางศรีเมือง และส่งทางไปรษณีย์ แต่ ส.ส.เต้ ไม่ยอมมาพบ ถือเป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 2

วันที่ 6 กรกฎาคม พนักงานสอบสวน ได้ขอศาลออกหมายจับ แต่ศาลยกคำร้อง โดยศาลระบุให้ออกหมายเรียกอีกครั้ง วันที่ 20 กันยายน พนักงานสอบสวน จึงออกหมายเรียกให้มาพบในวันที่ 1 ตุลาคม 64 ถือเป็นการออกหมายเรียกครั้งที่ 3 แต่ สส.เต้ ไม่มาพบ

ต่อมาวันที่ 4 ตุลาคม พนักงานสอบสวนได้ขอศาลออกหมายจับ ถือเป็นการขอออกหมายจับครั้งที่ 2 แต่ศาลยกคำร้องระบุให้ออกหมายเรียกอีกครั้ง วันที่ 4 ต.ค.จึงออกหมายเรียกนายมงคลกิตต์ อีก 1 ครั้งถือเป็นครั้งที่ 4 ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 18 ต.ค. แต่ไม่มาพบ วันที่ 20 ต.ค.จึงขอหมายออกหมายจับอีกครั้ง ศาลจึงออกให้ ตามหมายจับที่ จ.231 /2564

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวด้วยว่า รวมทั้งหมดออกหมายเรียกนายมงคลกิตติ์ จำนวน 4 ครั้ง ขอออกหมายจับ 3 ครั้ง ยืนยันทำตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้แจ้งข้อกล่าวหานายมงคลกิตต์ เพื่ออีก 1 ข้อหา ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังพบข้อความบทสัมภาษณ์นายมงคลกิตต์ ออกสื่อฉบับหนึ่ง ที่เขียนระบุข้อความเกี่ยวการถูกออกหมายจับด้วยถ้อยคำว่า”เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะอยู่ในท้องที่บุรีรัมย์ และตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจและศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นลูกน้องผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังทางการเมือง”