ผวจ. เผยผลสัมฤทธิ์โครงการตลาดอาหารทะเลต้นแบบ เชื่อมั่นข้อบ่งชี้ 3 ประการ สมุทรสาครผ่านพ้นวิกฤติโควิด 19
1 min readเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 14.30 น. ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร นายณภัทร์ เอมอ่อน นอภ.เมืองสมุทรสาคร,นายทวีพงษ์ คุณพิริยะทวี รักษาการ สสอ.เมืองสมุทรสาคร,นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร,นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานสหกรณ์พัฒนาการประมงมหาชัย จำกัด,นายปรีชา ศิริแสงอารำพี กรรมการตลาดทะเลไทย,นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ ประธานชมรมเรืออวนลากสมุทรสาคร และผู้แทนนายกเทศมนตรีตำบลท่าจีน ได้ร่วมกันแถลงสรุปผลการดำเนินงานโครงการตลาดอาหารทะเลต้นแบบ สร้างภูมิต้านโควิด เพื่อเศรษฐกิจสมุทรสาคร (ตลาดทะเลไทย/ตลาดกลางกุ้ง) ที่ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 14-16 ตุลาคมที่ผ่านมา
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่จังหวัดสมุทรสาคร ดำเนินโครงการตลาดอาหารทะเลต้นแบบ สร้างภูมิต้านโควิด เพื่อเศรษฐกิจสมุทรสาคร ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร ที่ตลาดกลางกุ้งฯ และตลาดทะเลไทย ระหว่างวันที่ 14 – 16 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงออกถึงความมุ่งมั่น จริงจัง และให้ความสำคัญต่อการควบคุมโรคโควิด 19 เป็นการสร้างความมั่นใจ รวมถึงเพิ่มความสุขในการดำเนินชีวิตให้กับประชาชนนั้น ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ และเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยพบว่า การตรวจค้นหาเชื้อโควิด – 19 แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยชุดตรวจ ATK มีแรงงานต่างด้าวในตลาดกลางกุ้ง และตลาดทะเลไทย เข้ารับการตรวจจำนวน 3,916 ราย พบติดเชื้อจำนวน 5 ราย หรือประมาณ 0.12% ของผู้ที่ ได้รับการตรวจ โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดนี้เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อนเลย และเมื่อพบแล้วก็มีการจัดให้เข้ารับการดูแลรักษาตัวในโรงพยาบาลทันที อีกทั้งยังมีการสอบสวน ป้องกันโรคตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดที่สำคัญ ได้แก่ การปิดแพที่พบผู้ติดเชื้อจำนวน 3 วัน เพื่อทำความสะอาด และค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกครั้ง ซึ่งก็ไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติม ส่วนผู้ที่ไม่พบเชื้ออีก 3,911 รายนั้น ได้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันโรค ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยมีทั้งการใช้สูตรไขว้ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยติดเชื้อ เริ่มเข็มที่ 1 ด้วยวัคซีนซิโนแวค จำนวน 3,333 ราย และอีกประมาณ 4 สัปดาห์ จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนกาให้เป็นเข็มที่ 2 ส่วนผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด 19 มาแล้ว ก็ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนกา เป็นการกระตุ้นภูมิ จำนวน 578 ราย
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า จากผลการดำเนินงานนี้ แสดงให้เห็นว่าจังหวัดสมุทรสาครมีความตั้งใจและเร่งรัดการดำเนินการในทุกๆ ด้านเพื่อป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 ซึ่งมีเป้าหมายให้ตลาดกลางกุ้งและตลาดทะเลไทย ที่ถือได้ว่าทั้งสองตลาดเป็นตลาดเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาคร แต่ครั้งหนึ่งเคยเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 มากที่สุด (ในระลอกที่ 2) จนทำให้คนภายนอกจังหวัด เกิดการต่อต้านคนและสินค้าของจังหวัดสมุทรสาคร โดยในการจัดทำโครงการครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้เป็นตลาดอาหารทะเลและพื้นที่ต้นแบบที่ผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าว รวมถึงสมาชิกในพื้นที่ได้รับการดูแลให้ห่างไกลจากโรคโควิด 19 สร้างความมั่นใจให้กับทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้บริโภค และประชาชนโดยทั่วไป ด้วยมาตรการด้านการตรวจหาเชื้อและการให้วัคซีนป้องกันโรค ตามนโยบายเปิดเมืองปลอดภัยเปิดพื้นที่รับ นักท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย 4 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.การฉีดวัคซีนตามเป้าหมาย 2. ทุกคนป้องกันตนเองขั้นสูงด้วยการปฏิบัติตนมาตรการ DMHTT 3.ใช้ชุดตรวจตรวจ ATK คัดกรอง รู้เร็ว รักษา อันนำไปสู่การประเมินสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ได้ และ 4.องค์กรใช้มาตรการ COVID Free Setting ทั้งนี้โครงการดังกล่าวนอกจากจะเพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่การเปิดเมืองแล้ว ยังเพื่อเตรียมรับการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ด้วย โดยทุกคนที่อยู่ในรั้วโรงเรียนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส ไม่ว่าจะเป็นครู บุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ พ่อค้าแม่ค้า ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนทั้งลูกหลานคนไทยและลูกหลานแรงงานข้ามชาติที่เรียนร่วมกับเด็กไทย ก็จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนด้วยเช่นเดียวกัน จึงขอให้ทุกคนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่ว่าจะเป็นเด็กอายุ 12-18 ปี หรือผู้ใหญ่ในทุกกลุ่ม มาเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อแสดงพลังความพร้อมของคนจังหวัดสมุทรสาคร ที่จะก้าวไปสู่การเปิดเมืองแห่งเศรษฐกิจ และเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยจากโควิด 19 ได้อย่างยั่งยืน
นายณรงค์ฯ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ตนมีความเชื่อมั่นว่าหากไม่มีการพบเชื้อโควิด 19 ตัวใหม่นั้น จังหวัดสมุทรสาคร จะไม่เกิดการระบาดที่รุนแรงอย่างแน่นอน โดยประเมินจากข้อบ่งชี้ 3 ประการ คือ 1.คนสมุทรสาครให้ความร่วมมือฉีดวัคซีนกันแล้วเป็นจำนวนมาก 2.ยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อตัวใหม่หรือเชื้อโควิด 19 กลายพันธุ์ และ 3.ทุกคนร่วมกันปฏิบัติตนตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการปฏิบัติตนตามมาตรการ DMHTT เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ดังเห็นได้จากการดำเนินงานโครงการตลาดอาหารทะเลต้นแบบ สร้างภูมิต้านโควิด เพื่อเศรษฐกิจสมุทรสาคร ในพื้นที่ตลาดทะเลไทย กับ ตลาดกลางกุ้ง ที่แม้จะเคยพบการระบาดมากที่สุด แต่เมื่อผ่านพ้นไปแล้วเกือบ 1 ปี กลับพบการติดเชื้อรายใหม่เพียงแค่ 5 รายเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าทุกคนทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามมาตรการของสาธารณสุขอย่างเข้มแข็ง แต่ทั้งนี้หากพบมีการระบาดอีกครั้งในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร ก็พร้อมในทุกๆด้านเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านนายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า โครงการนี้ นับเป็นโครงการนำร่อง COVID Free Setting ในจังหวัดสมุทรสาคร และนำไปสู่การเปิดเมืองเศรษฐกิจ ด้วยการปฏิบัติตาม 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ 1.COVID Free Environment คือ มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้ปลอดโควิด การระบายอากาศ สุขอนามัยเหมาะสม สะอาดปลอดภัย และเว้นระยะห่าง, 2.COVID Free Personnel คือ พนักงานปลอดโควิด ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ พนักงาน ต้องฉีด วัคซีน ครบตามเกณฑ์ และตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ และ 3.COVID Free Customer คือลูกค้าปลอดโควิด ผู้ใช้บริการต้องมีใบยืนยันการฉีดวัคซีน ซึ่งจะเป็นการสร้างหลักประกันให้กับทุกท่านได้มั่นใจในความปลอดภัย อีกทั้งเรายังมีแผนรองรับการระบาดฯ หลังการเปิดเมืองไว้อีกคือ หากพบการติดเชื้ออยู่ตรงส่วนไหน ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงจุดที่มีการระบาดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อทำลายเชื้อในสิ่งแวดล้อม พร้อมกับนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา และกักตัวผู้เสี่ยงสูงทันที
ส่วนนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.รพ.สมุทรสาคร บอกว่า โดยภาพรวมของโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดสมุทรสาครดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน จากเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม โรงพยาบาลทุกแห่งรับผู้ป่วยสีแดงจนล้น อัตราผู้เสียชีวิตค่อนข้างสูง แต่มาในช่วงเดือนตุลาคมนี้ผู้ป่วยกลุ่มสีแดงลดลงอย่างชัดเจนและผู้เสียชีวิตต่อวันก็เพียงแค่ 1-2 ราย หรือบางวันไม่พบผู้เสียชีวิตเลย โดยในส่วนของโรงพยาบาลสมุทรสาครเหลือผู้ป่วยสีแดงจากการติดเชื้อโควิด 19 เพียงแค่สิบกว่ารายเท่านั้น ที่ยังคงต้องให้เครื่องช่วยหายใจ นอกจากนี้ศักยภาพการฉีดวัคซีนก็พร้อมที่จะฉีดให้กับผู้ที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาครทั้งคนไทย และแรงงานข้ามชาติ (ตามข้อกำหนด) ได้วันละประมาณ 12,000-15,000 ราย
ขณะที่นายณภัทร์ เอมอ่อน นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร บอกด้วยว่า ภายหลังจากการดำเนินโครงการตลาดอาหารทะเลต้นแบบ สร้างภูมิต้านโควิด เพื่อเศรษฐกิจสมุทรสาคร (ตลาดทะเลไทย/ตลาดกลางกุ้ง) ได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้วนั้น ต่อไปก็จะนำเสนอต่อคณะกรรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขออนุมัติวัคซีนขยายโครงการไปฉีดให้แก่กลุ่มตลาดอื่นๆ หรือชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า ในส่วนของเทศบาลนครสมุทรสาครนั้น จะได้หารือร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดกิจกรรมเปิดเมืองอาหารทะเล เปิดเมืองสมุทรสาคร เป็นการเรียกความเชื่อมั่นด้านศักยภาพอาหารทะเลของจังหวัดสมุทรสาครให้กลับคืนมาอีกครั้งในช่วงประมาณกลางเดือนธันวาคม 2564 เนื่องจากครบรอบ 1 ปี แห่งการติดเชื้อโควิด 19 ครั้งใหญ่สุดของจังหวัดสมุทรสาคร
นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานสหกรณ์พัฒนาการประมงมหาชัย จำกัด เปิดใจว่า โครงการที่จังหวัดจัดขึ้นนี้ นับเป็นโครงการที่ดี ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาสู่ผู้ค้า-ผู้ขาย อาหารทะเลในตลาดทะเลไทย และตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาครอีกครั้ง โดยเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้เมื่อแรงงานทุกคนในตลาดทั้ง 2 แห่ง ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ก็จะทำให้ลูกค้า หรือ ผู้บริโภค หรือประชาชนที่มาจับจ่ายซื้ออาหารทะเลนั้นมีมากขึ้น เพราะเชื่อมั่นในความปลอดโรค ปลอดภัย ปลอดเชื้อโควิด 19 ในตลาดทั้ง 2 แห่ง
นายปรีชา ศิริแสงอารำพี กรรมการตลาดทะเลไทยชี้ว่า เมื่อฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมแล้ว สิ่งที่จังหวัดสมุทรสาคร ควรจะต้องดำเนินการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาคือ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมแสดงออกถึงคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารทะเล โดยจะต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์โดยรวมจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืน
นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ ประธานชมรมเรืออวนลากสมุทรสาคร กล่าวอีกว่า ความปลอดภัยของอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาครนั้น ไม่ได้มีอยู่แค่เพียงปลายน้ำคือ ในตลาดหรือในสถานประกอบการเท่านั้น แต่ความปลอดภัยของอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร เริ่มมาตั้งแต่ต้นน้ำ คือในเรือประมง เพราะชาวเรือประมงทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายจ้าง หรือแรงงานทุกคน ล้วนแต่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน อีกทั้งยังมีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ส่วนนายทวีพงษ์ คุณพิริยะทวี รักษาการสาธารณสุขอำเภอเมืองสมุทรสาคร ก็ฝากทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับคนไทยทุกคนในจังหวัดสมุทรสาคร ที่ต้องการฉีดวัคซีนนั้น สามารถมาติดต่อขอรับบริการได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือหากเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถมารับบริการฉีดวัคซีนได้ หรือญาติมาแจ้งที่ รพ.สต.เพื่อจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปให้บริการแบบถึงบ้าน
ภาพ/ข่าว ชูชาติ แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร