กระเป๋าเงินเป็นเหตุ หนุ่มหันไปหยิบขณะขับรถทำให้ชนท้ายคันหน้าจนพุ่งเข้าร้านข้าวแกง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
1 min readเมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. ของวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งเข้าไปในร้านขายข้าวแกง ริมถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.หญิง ณัชชารีย์ นกรเกียรติวิศาล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ไปตรวจสอบ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลวิภาราม รับผู้บาดเจ็บ
โดยที่เกิดเหตุเป็นร้านขายข้าวแกงริมทาง ชื่อร้าน ครัวสามพี่น้อง กม.35 ตั้งอยู่เลขที่ 4/6 หมู่ที่ 3 ถ.พระราม 2 (ขาออกกรุงเทพฯ) ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ภายในร้านพบรถยนต์กระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 4 ประตู สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน 6 กด 5242 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนจากหน้าร้านไปอยู่ด้านในสุดของร้าน สภาพรถมีร่องรอยของการถูกชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนข้าวของภายในร้านก็กระจัดกระจายเต็มพื้น อีกทั้งยังมีรอยเลือดกองอยู่ที่พื้น ส่วนผู้บาดเจ็บมี 2 คน ยังไม่ทราบชื่อ เป็นลูกค้าผู้ชายที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ภายในร้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ ได้รีบนำส่งเข้ารับการรักษาตัว เนื่องจากผู้บาดเจ็บ 1 คนมีอาการค่อนข้างสาหัส ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่เจ้าของร้านและลูกจ้างของร้านก็ยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีรถยนต์กระบะอีก 1 คัน จอดอยู่ริมถนนหน้าร้าน เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ทะเบียน 7 กต 4232 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับ กันชนแตกหลุดออกมา และอีกคันจอดอยู่หน้าปั๊มแก๊สห่างจากที่เกิดเหตุเล็กน้อย เป็นรถยนต์กระบะโตโยต้า สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน 2 ฒฬ 5711 กรุงเทพมหานคร มีสภาพการชนทั้งด้านหน้าและด้านหลังจนพังยับเช่นเดียวกัน
จากการสอบปากคำนายนพพล สุขกำเนิด อายุ 38 ปี เจ้าของรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้าน ซึ่งเป็นคันต้นเหตุบอกว่า ตนยอมรับว่าเป็นคนผิดจริง โดยช่วงที่ขับรถมาตามถนนเส้นคู่ขนาน เพื่อมุ่งหน้าจะไปช่วยลากรถให้เพื่อนที่จังหวัดสมุทรสงครามนั้น เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้หันไปหยิบกระเป๋าเงินที่วางอยู่บนเบาะคนนั่งข้าง แต่ปรากฏว่าพอหันหน้ากลับมามองถนนอีกครั้ง รถของตนก็พุ่งเข้าหาท้ายรถยนต์กระบะที่จอดชะลอให้รถคันหน้าสุดเลี้ยวเข้าร้านขายอาหารริมทาง ซึ่งตนได้พยายามเบรกแล้วแต่เบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนท้ายรถคันหน้ารถตน แล้วรถคันที่ตนพุ่งชนท้ายนั้นก็พุ่งไปชนรถกระบะคันหน้าสุดที่กำลังจะเลี้ยวเข้าร้านขายอาหาร ทำให้รถคันหน้าสุดพุ่งเข้าไปในร้านขายอาหารอย่างแรง แล้วก็ไปเฉี่ยวชนคนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารในร้านได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ขณะที่นายพนม สุขษาเกษ อายุ 48 ปี คนขับรถยนต์กระบะที่ถูกชนท้ายเล่าว่า ตนเองจอดชะลอรถเพื่อให้รถคันหน้าเลี้ยวเข้าร้านขายอาหารริมทาง แต่จู่ๆ ก็มีรถยนต์กระบะคันที่ขับตามมาข้างหลังพุ่งชนจนรถของตนไปชนกับท้ายรถคันหน้าสุด แล้วรถคันนั้นก็พุ่งเหินเข้าไปในร้านขายอาหารอย่างแรงและรวดเร็ว
ส่วนลูกจ้างในร้านเล่าว่า ตนเองเห็นรถยนต์กระบะพุ่งเข้ามาในร้าน รู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก โดยรถได้ชนลูกค้าที่นั่งอาหารอยู่ด้วย ตนกับคนในร้านทำอะไรไม่ถูก รู้สึกสั่นกลัวไปหมด ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย ส่วนสาเหตุมาจากรถยนต์กระบะคันหลังสุด พุ่งชนท้ายรถยนต์กระบะคันกลาง แล้วรถยนต์กระบะคันกลางก็พุ่งชนรถยนต์กระบะคันหน้าสุด จนพุ่งเหินเข้ามาในร้านชนลูกค้าที่นั่งทานอาหารได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับข้าวของในร้านแตกกระจายหลายอย่าง
ด้านผู้บาดเจ็บที่เป็นลูกค้าในร้านนั้น ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามพูดคุยสอบถามอาการเบื้องต้น แต่ปรากฏว่ายังอยู่ในอาการมึนๆ งงๆ พอเล่าแบบจับใจความได้ว่า ตนเองหิวข้าว นั่งหันหลังให้ถนน กำลังกินข้าวอยู่ ยังกินไปไม่ได้กี่คำ แล้วก็ไม่รู้รถมาจากไหน พุ่งชนเข้ามาเลย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้คนขับรถยนต์กระบะทั้ง 3 คัน ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และจะได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ กับ เจ้าของร้านและลูกจ้างภายในร้านขายอาหารครัวสามพี่น้อง รวมถึงพยานผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ชูชาติ แดพยนต์ ทีมข่าวสมุทรสาคร